อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

แก้กดลูกนัยน์ตา

Getting your Trinity Audio player ready...

 

(เมื่อเราบูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปตั้งใจให้แน่แน่ว มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานกันทุกๆ คนนะ ……………….)

แก้กดลูกนัยน์ตา

…ทีนี้มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง สำหรับคนที่มักจะตึง มักจะกดลูกนัยน์ตาไปกลางท้อง แล้วทำจนเคยชินติดต่อกันมา เป็น ๑๐ ปี ๒๐ ปี พอนึกอย่างนี้ทีไร อึดอัดทุกที ก็อย่ากังวล นะลูกนะ ทำใจให้ใส หลวงพ่อก็ยังยืนยันว่า แม้มืดตื้อมืดมิดก็ มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม แม้จะตึง จะเครียด จะเกร็ง ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรมเหมือนกัน

ให้สังเกตว่า เปลือกตามันหนักไหม จำนะใครที่กดลูกนัยน์ตาดู ถ้าไม่หนัก แม้ยังมืดอยู่ก็ตาม นั่นแหละถูกวิธีแล้ว แต่ถ้าหนัก แสดงว่าเรากดลูกนัยน์ตาไปดูแล้ว แม้จะนิ่ง แต่ว่านิ่งแบบไม่ถูกวิธี นิ่งแบบก้อนอิฐก้อนหินอย่างนั้นไม่ใช่นะ ต้องรีบแก้ไข ลืมตาใหม่ พอเราลืมตาแล้ว รู้สึก เออ กล้ามเนื้อมันกลับคืนสภาพ ก็ค่อยๆ หรี่ตาลงมา ในระดับที่ไม่หนักเปลือกตา

ภาพรวมคือไม่หนักลูกนัยน์ตา ถ้าไม่หนักเปลือกตา ไม่หนักลูกนัยน์ตา ระบบประสาทกล้ามเนื้อมันจะคลี่ แล้วก็คลายตัวออก มันจะผ่อนคลาย คลายไปเลย นิ้วไม่กระดก ไหล่ก็ไม่ยกท้องก็ไม่เกร็ง

ให้รักษาความรู้สึก หรือสภาวะนี้ต่อไป แม้ยังมืดตื้อ มืดมิดก็ตาม ให้รักษาสภาวะนี้ให้ดี แล้วก็นิ่งเฉยๆ อย่างนี้เรื่อยไปเลยโดยไม่คำนึงถึงว่า อะไรจะเกิดขึ้น ให้นิ่งอย่างเดียว จะภาวนาสัมมาอะระหัง ประคองไปด้วยก็ได้ หรือจะไม่ภาวนา ก็ไม่เป็นไรถ้าตึงอีก ลืมตาใหม่ แล้วค่อยๆ หรี่ตา เราต้องพร้อมเสมอที่จะเริ่มต้นใหม่อย่างถูกต้องนะ ก็จะช่วยแก้ไขได้

เพราะฉะนั้น ให้หมั่นสังเกตดู ของใครก็ของคนนั้น ดูตัวเราให้ดี วางเบาๆ สบายๆ นิ่งๆ นุ่มๆ ละมุนละไม ให้ใจใสๆเยือกเย็นเอาไว้

ถ้าหลวงพ่อยังอยู่ล่ะก็ ไม่ต้องกลัว จะต้องเข้าถึงธรรมกันทุกคนนั่นแหละ ขอให้มีความเพียร อย่าเกียจคร้าน แล้วก็ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน ให้ถูกหลักวิชชา มีสติ มีความสบาย มีความสม่ำเสมอ แล้วก็หมั่นสังเกตดู หลังจากเราเลิกนั่งแล้วมาทบทวนวันนี้เมื่อกี้นี้ เรานั่งถูกหลักวิชชาไหม เพราะว่าผลออกมา มันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย สังเกตแล้วก็ปรับปรุงวิธีการใหม่นึกทบทวนที่หลวงพ่อแนะนำเอาไว้ที่ผ่านมาตั้งเยอะแยะมีอะไรบ้างเราก็ทดลองทำไป ฝึกไปเรื่อยๆ นะลูกนะ อย่าท้อ สักวันหนึ่งจะต้องสมหวังอย่างแน่นอน และวันนั้นจะดีใจ จะมีปีติใจจะเบิกบานใจ

คืนนี้ก็เหมือนกับทุกคืน ใครเหนื่อย ใครเพลีย ใครง่วง ใครมักตึง มักกดลูกนัยน์ตา ถ้าแก้ไขวิธีอย่างนั้นไม่ได้ ก็ปล่อยให้หลับไปเลยในกลางกายของเรา หลับแบบผู้มีปัญญา หลับแล้วต้องได้บุญด้วย ใจต้องใสด้วย ถ้าเมื่อยก็ขยับเนื้อขยับตัวเบาๆอย่าให้กระทบกระเทือนคนข้างๆ นะลูกนะ.

ถ้าฟุ้งหยาบก็ลืมตา มาดูดวงแก้วใสๆ ดูองค์พระใสๆ ดูหลวงปู่ดูคุณยาย พอใจสบายๆ เราก็ค่อยๆ หรี่ตาลง ถ้าหากว่าฟุ้งละเอียด คือความฟุ้งที่เราสามารถควบคุมได้ ฟุ้งอย่างนี้สบายทำเฉยๆ รู้แล้วไม่ชี้ หยุดกับนิ่งอย่างเดียว จะมีความคิดผ่านเข้ามา เดี๋ยวมันก็ผ่านไป พอเราไม่สนใจก็จะเลือนหายไปเลยหายไปตอนไหนเราก็ไม่รู้ ใจก็จะนิ่ง เราก็รักษาความหยุดกับนิ่งที่นุ่มๆ ละมุนละไมอย่างนั้นเรื่อยไปเลย แล้วมันจะถูกส่วนไปเอง พอถูกส่วนก็ตกศูนย์วูบลงไป ฐานที่ ๖ แล้วก็จะไปยกเอาดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบ ลอยขึ้นมาที่ฐานที่ ๗เพราะฉะนั้นภาพที่เราจะเห็นก็จะเห็นเป็นดวงใสๆ ลอยขึ้นมาหลังจากนั้นการเดินทางเข้าไปสู่ภายในก็จะเกิดขึ้น

ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวทุกๆ คนนะลูกนะ ต่างคนต่างทำไปเงียบๆ นะ

 

วันพุธที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕

บทความที่เกี่ยวข้อง