อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

ดับเดือน..ดับดาว

Getting your Trinity Audio player ready...

ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังดำเนินไปอย่างยาวนานถึง 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 – 2488 ช่วงนั้น..หลวงปู่ ก็คุมทีมงานทำวิชชาตลอด 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 2 กะ คือ กะกลางคืน กับกะกลางวัน ซึ่งแต่ละกะจะต้องนั่งทำวิชชากันนานถึง 6 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง คือ ตั้งแต่ 6โมงเช้าถึงเที่ยงวัน เที่ยงวันถึง 6 โมงเย็น 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน และก็..เที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า หมุนเวียนต่อเนื่องกันไปแบบนี้… ซึ่งการทำวิชชาโดยไม่ได้หยุดเลยแม้แต่เพียงวันเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะทีมงานทุกคนต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ หยุดใจให้สนิทกับธรรมะภายในอย่างตลอดต่อเนื่อง เพื่อทำวิชชาให้สงครามยุติให้ได้ หนำซํ้าช่วงนั้น ..ก็ต้องกินแต่มะละกอดอง กับเต้าหูยี้เท่านั้น

ดังนั้น หลวงปู่ท่านก็เลยหาวิธีให้ทีมงานของท่านรู้สึกผ่อนคลาย..ซึ่งในการผ่อนคลายนี้ หลวงปูท่านก็ไม่ได้พาไปเที่ยวไหน เพราะระดับหลวงปู่แล้ว ท่านสามารถพาไปได้ยิ่งกว่านั้น คือ ท่านพาไปดับเดือนดับดาวได้เลยทีเดียว..!!!

     อย่างในสมัยก่อน..เรามักจะได้ยินคนเขาพูดกันว่า.. อยากได้อะไรจะหามาให้ ยกเว้นดาวกับเดือน… แต่สำหรับหลวงปู่แล้ว..แม้ดาวเดือน..ซึ่งเป็นสิ่งที่หามาได้ยากท่านก็สามารถเอามาให้ลูก ๆ ของท่านเล่นได้..

 

 

     ซึ่งวิธีการของท่าน ก็ไม่ต้องมาลงทุนสร้างยานอวกาศ แล้วนั่งไปในอวกาศให้มันเสียเวลา เพราะวิธีการไปดับเดือน-ดับดาวของท่าน สามารถทำได้โดยการนั่งสมาธิ คือ วันหนึ่ง..หลวงปู่ก็บอกกับพวกที่ทำวิชชาว่า “เออ..วันนี้ เรามาดับดาวดวงนั้น..ดวงนี้.. กันดีกว่า…” แต่ก็ไม่ใช่ดับซี้ซั้ว หรือดับหมด คือ หลวงปู่ท่านจะสั่งให้ดับเฉพาะดวงที่เป็นสถานีรับส่งกระแสบาปและอกุศล ที่ส่งมาเชื่อมโยงกับใจมนุษย์ และส่งผลร้ายทำให้เกิดโทษภัยกับโลก และมวลมนุษยชาติ เช่น ทำให้มนุษย์รบราฆ่าฟันกัน เกิดข้าวยากหมากแพง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง เศรษฐกิจตกตํ่า เป็นต้น

     เริ่มต้นด้วยการที่หลวงปู่ท่านออกไปยืนดูดาวนอกโรงงานทำวิชชา แล้วกลับมาสั่งงานในโรงงานว่า ให้ดับดวงนี้..ดวงโน้น…ซึ่ง หลวงปูท่านนจะสอนให้นั่งดับในที่ โดยใช้หลักการที่ว่าท่านจะให้นั่งเข้าที่..สาวไปหาต้นเหตุว่า จุดเริ่มต้นของแสงสว่าง หรือต้นแหล่งในการผลิตกระแสบาป ที่เป็นโทษภัยต่อมนุษย์นั้นมาจากไหน คือ ท่านให้สาวไปหาต้นตอให้เจอ จากนั้นก็ไปดับที่นั่น

และเมื่อทำวิชชาดับแล้ว..ดาวก็จะดับลง และเมื่อดาวดับผลร้ายที่จะเกิดจากดาวดวงนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นกับมนุษย์ หรือหากเกิดก็จะผ่อนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นหาย จากร้ายเป็นดี…

     และเมื่อนั่งเข้าที่ดับกันเสร็จแล้ว หลวงปู่ท่านก็จะแบ่งพวกทำวิชชาครึ่งหนึ่งออกไปดูว่าดับได้จริงหรือเปล่า ซึ่งในสมัยนั้น การทำวิชชาดับดาว ถือว่าเป็นความสามารถเพียงเล็กน้อยของพวกที่ทำวิชชาได้ เพราะมีสามเณรหลายรูปสามารถดับดาวได้เป็นว่าเล่น จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการดับดาวนั้น จะดับเดี่ยวก็ได้ หรือจะดับ เป็นทีมก็ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง