อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

คิดพูดเรื่องละเอียด ใจละเอียด

Getting your Trinity Audio player ready...

(เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ…………)

…ลูกทุกคนคงจำได้ว่า ไม่มีทางลัดอื่นใด นอกจากความเพียรพยายาม ทำอย่างถูกวิธี ให้มีสติ มีความสบาย แล้วก็สมํ่าเสมอ ทุกวัน อย่าให้ขาด

ให้มีชั่วโมงหยุด ชั่วโมงนิ่ง ชั่วโมงกลาง ที่เราจะต้องประคับประคองใจให้อยู่ภายในทั้งวัน ไม่ว่าเราจะประกอบสัมมาอาชีวะหรือทำภารกิจอะไรก็ตาม จะอาบนํ้า ล้างหน้า แปรงฟัน ขับถ่าย เหยียดแขน คู้แขน นั่ง นอน ยืน เดิน อะไรก็แล้วแต่ ถ้ารักที่จะเข้าถึงธรรม ถึงพระรัตนตรัยในตัว ต้องหมั่นประคองใจนะลูกนะ

แล้วก็ต้องใจเย็น ๆ ใจใส ๆ มีสติ มีความสบาย มีความสมํ่าเสมอ ใจที่หยาบก็จะค่อย ๆ ละเอียด มันไม่ใช่ฮวบฮาบละเอียดขึ้นมาเลย จากหยาบก็มาละเอียด จากละเอียดน้อยก็ค่อย ๆ มาละเอียดมาก จนกระทั่งค่อย ๆ โล่ง โปร่ง เบา สบาย ตัวขยาย เห็นแสงสว่าง เห็นดวงธรรม เป็นต้น ก็จะมีขั้นมีตอนของมัน

เพราะฉะนั้นอย่าไปแสวงหาหนทางลัดอื่นใดเลย หยุดกับนิ่งเท่านั้นลัดที่สุด แต่ก็ต้องค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ ค่อย ๆ ฝึกให้ใจหยุดนิ่ง เพราะฉะนั้นจากมืดตื้อมืดมิด ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม และต้องเข้าถึงทุกคนด้วย เพราะดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบมีอยู่แล้วในตัวของเราตรงฐานที่ ๖ แค่เราค่อย ๆ ประคองใจให้หยุดให้นิ่ง สบาย ๆ ให้ใจค่อย ๆ ละเอียด

ใจละเอียดเท่านั้นจึงจะไปถึงสิ่งที่ละเอียดได้ ถ้าใจไม่ละเอียดมันเข้าไม่ถึง เพราะฉะนั้นวันทั้งวันในระบบความคิดคำพูดและการกระทำของเราต้องวนเวียนกับสิ่งที่ละเอียด ถ้าเราคิดเรื่องละเอียด พูดเรื่องละเอียด ทำเรื่องละเอียด แล้วก็วนเวียนอยู่กับสิ่งที่ละเอียด ใจก็จะละเอียดตาม

นึกถึงองค์พระ นึกถึงดวง นึกถึงธรรมะ นึกถึงบุญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ละเอียด บริสุทธิ์ สะอาด เกลี้ยงเกลา นึกบ่อย ๆ ใจของเราก็จะพลอยเป็นอย่างนั้น คือ บริสุทธิ์ สะอาด เกลี้ยงเกลาเหมือนกันกับวัตถุสิ่งของที่เราจะนึก จะคิด จะพูด หรือจะทำ นี่คือกฎของการเข้าถึงธรรมที่ลูกทุกคนจะต้องจำเอาไว้

ถ้าเราอยากเข้าถึงได้เร็ว แม้จะไม่มีทางลัดก็ต้องคิดสิ่งที่ละเอียด สิ่งที่สะอาด สิ่งที่บริสุทธิ์ พูดก็ต้องละเอียด สะอาด บริสุทธิ์ ทำก็ละเอียด สะอาด บริสุทธิ์ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ๓ ทางนี้ บ่อย ๆ เนือง ๆ ที่ภาษาบาลีเขาใช้คำว่า ภาวิตา พหุลีกตา บ่อย ๆ เนือง ๆ ซํ้า ๆ มีเวลาเป็นนึก มีเวลาเป็นพูด มีเวลาเป็นทำ

อยู่คนเดียวจะพูดกับใคร ก็พูดกับตัวเราเองด้วยคำภาวนาสัมมา อะระหัง หรือสอนตัวเราเองว่าเราต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องเป็นผู้สะอาด ต้องเกลี้ยงเกลา แล้วก็ลงมือทำอย่างนี้นะลูกนะ

คืนนี้ก็เช่นเคย ใครเหนื่อย ใครเพลีย ใครง่วง ใครตึง ใครเครียด ปล่อยให้มันหลับไปเลย ถ้าเมื่อยก็ขยับเบา ๆ ถ้าฟุ้ง ฟุ้งหยาบเราก็ลืมตา ดูดวงแก้ว ดูองค์พระ ดูหลวงปู่ฯ ดูคุณยายอาจารย์ฯ ของเรา เป็นต้น ถ้าใจเริ่มละเอียด รู้สึกสบาย ก็ค่อย ๆ หลับตาลง แต่ถ้าฟุ้งละเอียดเราก็วางใจหยุดให้นิ่ง ๆ ถ้าความฟุ้งเป็นภาพ เราก็นึกภาพดวงแก้ว องค์พระเข้ามาแทน หรือมหาปูชนียาจารย์ของเรามาแทน ถ้าฟุ้งเป็นเสียง เราก็ใช้คำภาวนา สัมมา อะระหัง เข้ามาสู้กัน ก็ต้องค่อย ๆ ประคับประคองกันไปอย่างนี้นะลูกนะ เดี๋ยวเราก็สมหวัง คืนนี้ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยกัน ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบ ๆ

จันทร์ที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕

บทความที่เกี่ยวข้อง