อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

หน้าแรกบทความสื่อธรรมะ

สื่อธรรมะ

Most Commented

บ่มอินทรีย์

ง่ายแต่ลึก

เรามีระเบิดเวลาอยู่ในตัว.. คนละหลายๆ ลูก !

เราคงนึกไม่ถึงว่า อดีตที่ผ่านมา ในภพชาติก่อนๆ นั้น เราเคยทําบาปอกุศลไว้มากน้อยเพียงใด ซึ่งมันเป็นระเบิดเวลาของชีวิต ที่แต่ละคนมีกันคนละหลายๆ ลูก พูดง่าย ๆ คือ นับลูกไม่ถ้วน คอยเรียงคิว รอวันเวลาที่จะระเบิดอยู่ภายในตัวของเรา ยิ่งไปกว่านั้น ชีวิตในปัจจุบันนี้ เราก็มีเรื่องที่ทําพลาดพลั้งไปเมื่ออกุศลเข้าสิงจิต เพราะฉะนั้นอย่าประมาท ชะล่าใจ หมั่นฝึกฝนอบรมใจของเราให้หยุดนิ่ง ให้ใสเข้าไว้ ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวให้ได้ อย่างน้อยก็ให้ได้ดวงธรรมใส ๆ ติดอยู่กลางกายตลอดเวลา...

เจริญมรณานุสติ

       บางคนพอพูดถึงเรื่องตาย เกิดความกลัวขึ้นมา อย่างกับตัวจะไม่ตายอย่างนั้นแหละ ขอยืนยันว่า กลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย ไม่อยากเจอ ความตาย ก็ต้องเจอ ทุกสถานที่ในโลกนี้ เราปฏิเสธไม่ไปได้ แต่ปรโลก ปฏิเสธไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องซ้อม ๆ กันเอาไว้ ซ้อมตายทุกคืนเลย ทําง่าย ๆ โดยสมมติว่า เราจะไปคืนนี้...

ปรโลกมีจริง

ชีวิตในปรโลก ถ้ามีบุญมากก็ไปมีความสุขในสุคติโลกสวรรค์มาก บางท่านท่องเที่ยวอยู่ในโลกสวรรค์เลย คือจากสวรรค์ชั้นหนึ่งไปชั้นสอง สองไปสาม ไปสี่ ไปห้า ไปหก หกแล้วย้อนลงมาใหม่ หลายเที่ยวก็มี เที่ยวเดียวก็มี อย่างนี้เขาเรียกว่า ท่องอยู่ในสวรรค์ ตรงกันข้าม ถ้าบาปมากก็ท่องในอบายยาวนานทีเดียว ในมหานรกขุมต่าง ๆ จากขุมนี้ไปขุมโน้น ขุมโน้นไปขุมนี้ ขุมใหญ่ไปขุมบริวาร ขุมบริวารไปขุมใหญ่อีกแล้ว หรือขุมใหญ่ไปขุมใหญ่ หรือขุมบริวารไป ขุมบริวาร สลับกันไปมา...

อันตัวเรานั้น…ตายแน่ๆ

ความตายไม่มีนิมิตหมาย เป็นสิ่งที่เราจะต้อง เตือนใจของเราบ่อย ๆ ทุกวันเลย          เวลามา มันปุ๊บปั๊บมา โดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย ถ้าหากเราได้สั่งสม บุญเอาไว้อย่างเต็มที่แล้ว เราก็มีความพร้อมเสมอว่า จะไปตอนไหน ที่ไหน เวลาใดก็ได้ แต่ถ้าหากเราสั่งสมบารมีกันยังไม่เต็มที่ละก็ นึกแล้ว หวาดเสียวนะ ดูอย่างคุณยายอาจารย์ของเรา ขนาดท่านสั่งสมบุญมาอย่างสมํา่ เสมอ ท่านยังมีความรู้สึกว่าเพิ่งจะทํา บุญไปได้นิดเดียวเท่านั้น ท่านมักจะพูดให้หลวงพ่อหรือผู้ใกล้ชิดฟังบ่อย...

ทําตัวประดุจผ้าขี้ริ้ว

       ตอนท่านมีชีวิตอยู่ จะบอกหลวงพ่ออยู่เรื่อย ๆ ว่าต้องเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้านะ ใครเขาจะเหยียบย่ําเราก็ช่างเขาเถอะ ใจเรา จะได้สบาย ไม่หงุดหงิด ไม่งุ่นง่าน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่รําคาญใจ ใจจะได้ใส ๆ ศึกษาวิชชาธรรมกายได้ละเอียด แล้วท่านก็บอกอีกว่า ตึกใหญ่ ๆ ทั้งหลัง จะกี่สิบกี่ร้อยชั้นก็ตาม ลงทุนสร้างกันเป็นพัน ๆ...

บทสรุปงบดุลชีวิต

ถ้าใครใจใส...ก็ไปสุคติโลกสวรรค์ ถ้าใครใจหมอง...ก็ไปอบาย ตอนก่อนจะเดินทางไปสู่ปรโลก แทนที่จะตัดสินกันด้วยความชํานาญในอาชีพ ที่เราได้ฝึกฝนเลี้ยงชีพมาตลอดชีวิต หรือตัดสินจากการได้ครอบครองทรัพย์สิน มีลาภ ยศ สรรเสริญ พวกพ้องบริวาร หล่อ รวย สวย ฉลาดก็หาไม่ แต่กลับไปตัดสินกันที่หมองกับใส ซึ่งเกิดจากบุญและบาปที่ได้กระทําไว้ เป็นบทสรุปงบดุลชีวิตในตอนนั้นว่า ใจใครจะผ่องใสหรือเศร้าหมอง “หมองกับใส” ขึ้นอยู่กับการกระทําของเราตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ ทั้งทางกาย วาจา ใจ ถ้าทําบุญ สร้างความดี ใจก็จะผ่องใส ไม่เศร้าหมอง ถ้าทําบาปใจก็เศร้าหมอง...

Editor Picks