อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

หน้าแรกบทความ

บทความ

Most Commented

ปลุกไปรบ

คุณยายอาจารย์ทองสุข และคุณยายอาจารย์จันทร์ เป็นสหธรรมิกนักสร้างบารมีที่สามารถทําวิชชาได้ทั้งคู่ แต่ท่านมีความแตกต่างกันคือ คุณยายอาจารย์ทองสุขมีอัธยาศัยที่ถนัดในการสอนและเผยแผ่ ส่วนคุณยายอาจารย์จันทร์ไม่ค่อยชอบออกไปไหนและไม่ค่อยชอบสอนคนอื่น ชอบทําวิชชาปราบมารอย่างเดียว ในช่วงที่คุณยายทองสุขยังไม่ต้องออกไปเผยแผ่ ท่านจะทําวิชชาร่วมกับคุณยายจันทร์อยู่ในรอบเดียวกันซึ่งเป็นเวรดึก คุณยายอาจารย์จันทร์ท่านตื่นนอนไว ส่วนคุณยายอาจารย์ทองสุขตื่นช้ากว่าก่อนที่จะเข้าเวรดึก คุณยายอาจารย์จันทร์จึงต้องทําหน้าที่ปลุกคุณยายอาจารย์ทองสุขทุกคืน ท่านจะไปเรียกอยู่ใกล้ๆ ที่นอนว่า “พี่ๆ พี่สุข ไปเข้าเวรกัน” เป็นอย่างนี้เรื่อยมา พอถึงช่วงสงครามโลก สถานการณ์คับขันเมื่อต้องปลุกบ่อยๆ เข้า คุณยายอาจารย์จันทร์ก็เริ่มจะกังวล เพราะขนาดระเบิดมายังไม่ตื่น มีอยู่วันหนึ่งคุณยายอาจารย์จันทร์เผลอนึกตําหนิในใจว่า “คน...ให้ปลุกเรื่อยทุกคืนทุกคืน” จากนั้นก็ไปเข้าเวรนั่งสมาธิด้วยกัน พอถึงตอนเช้าออกจากเวร...

ตามสมบัติหล่อเลี้ยง

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น พระภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไปต่างประสบความยากลําบากเรื่องอาหารการกิน เกือบทุกประเทศทั่วโลกต่างได้รับความเดือดร้อนจากภาวะข้าวยากหมากแพงขาดแคลนทั้งเครื่องอุปโภคและเครื่องบริโภค แต่ที่น่าแปลกก็คือ วัดปากน้ํา ภาษีเจริญ ยังพอมีภัตตาหารและปัจจัย 4 หล่อเลี้ยงพระภิกษุสามเณร และอุบาสก อุบาสิกาทั่วทั้งวัด คุณยายเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ท่านและหมู่คณะใช้วิธีนั่งเฉยๆ ทําใจหยุดนิ่งเป็นสมาธิเรื่อยไป และตามเจ้าภาพและสมบัติมาเลี้ยงพระภิกษุสามเณรพร้อมทั้งอุบาสกอุบาสิกาที่วัดปากน้ํา แล้วจึงเอาบุญที่ได้จากการเลี้ยงพระนี้มาช่วยดลบันดาลให้เจ้าภาพทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถผ่านภาวะวิกฤตในช่วงมหาสงครามโลกครั้งที่2 ได้หลวงพ่อเคยถามคุณยายว่าทําอย่างไรบ้าง ท่านตอบว่า “ก็หยุดนิ่งทับทวีกายไปเยอะแยะ ตามสมบัติไปเชื่อมสายสมบัติตามผู้ตามคนอะไรต่างๆ ไปตามมา” แม้ในสมัยสงครามโลกจะมีการทิ้งระเบิดอยู่เป็นประจํา...

ดวงแก้วทําวิชชา

ศิษยานุศิษย์ของคุณยายบางท่านอาจเคยเห็นรูปหล่อของคุณยายในท่านั่งขัดสมาธิถือดวงแก้วอยู่ในมือข้างละหนึ่งดวง ซึ่งรูปหล่อนี้ก็เป็นประดุจตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของท่านในสมัยที่ยังทําวิชชาอยู่ในโรงงานทําวิชชากับพระเดชพระคุณหลวงปู่และหมู่คณะเพื่อนสหธรรมิก นักรบกองทัพธรรมที่มีหน้าที่รบกับศัตรูที่แท้จริงคือพญามาร เป็นการรบ ด้วยวิชชาธรรมกายโดยอาศัยธรรมาวุธที่เปี่ยมไปด้วยธรรมานุภาพ เป็นการรบด้วยจิตตานุภาพคือรบทางใจสู้กันแบบไม่ลดละ โดยที่มนุษย์ทั่วโลกและสรรพสัตว์ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่อาจล่วงรู้เหตุที่ไม่รู้ก็เพราะว่าใจของพวกเขายังไม่ละเอียดพอเนื่องจากไม่มีใครทําวิชชากันทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้แต่คุณยายและเหล่านักทําวิชชาต่างมุ่งมั่นทําความละเอียดกันทั้งวันและทุกวันเป็นเวลาหลายปีต่อเนื่องกันเรื่อยมาการรบภายในกับสงครามที่แท้จริง เป็นการรบกับข้าศึกที่แท้จริงคือผู้ผลิตกิเลสอาสวะหรือพญามารนอกจากอานุภาพของพระธรรมกายภายในตัวแล้วคุณยายยังต่างจากคนอื่นเพราะท่านจะมีตะลุ่มใส่ดวงแก้วกายสิทธิ์อยู่ใกล้ๆ ในระหว่างปฏิบัติธรรมภายในโรงงานทําวิชชา คุณยายมักจะถือดวงแก้วเอาไว้ในอุ้งมือทั้งสอง แล้วก็ประกอบวิชชาธรรมกายโดยถือดวงใหญ่ 2 ดวง ข้างละดวง ถือแล้วก็ปล่อยใจเข้ากลาง ให้หลุดจากกายหยาบ ดวงแก้วกายสิทธิ์ขนาดใหญ่ในโรงงานทําวิชชามีเพียงสามดวง ดวงใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ7 เซนติเมตร จำนวน 3 ดวง ที่เหลือเป็นดวงเล็กๆเวลาทําวิชชาก็จะนําติดตัวไว้สําหรับเป็นแนวร่วมสนับสนุนกัน ซึ่งผู้ทําวิชชาที่มีหน้าที่ปราบมารจะถือเอาไว้ขณะปฏิบัติธรรม...

พระของขวัญ

โดยทั่วไปแล้วเวลาสร้างพระผง ผู้สร้างจะพิมพ์พระขึ้นมาด้วยวัสดุต่างๆ กัน แล้วปลุกเสกตามหลักวิชาที่เคยร่ําเรียนมา ไม่ว่าจะเป็นคาถาอาคมหรือการทําพุทธาภิเษก เรียกได้ว่าเป็น “ของขลัง”ส่วนการสร้างพระของพระเดชพระคุณหลวงปู่นั้นเรียกว่าเป็น “พระของขวัญ” เพราะเป็นของขวัญที่มอบให้กับผู้ที่ได้สร้างบุญเอาไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นของที่ระลึกสําหรับสาธุชนที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างอาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมภายในวัดปากน้ํา ในช่วงที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีการสร้างพระของขวัญสามรุ่นด้วยกันคือ พระผงวัดปากน้ํารุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่น 3 นอกเหนือจากนี้ยังมีเหรียญโลหะและล็อกเก็ตรูปเหมือนของพระเดชพระคุณหลวงปู่อีกด้วย สําหรับพระผงนั้น ก่อนที่จะนํามามอบเป็นของขวัญให้กับญาติโยม ทางวัดจะต้องนําพระที่พิมพ์แล้วมาเก็บไว้ที่โรงงานทําวิชชาก่อน คุณยายเล่าว่าผู้ทําวิชชาจะต้องซ้อนวิชชาเข้าไปตลอดหนึ่งพรรษาโดยไม่มีการเสก ไม่มีการสวด มีแต่ซ้อนอย่างเดียวโดยอาราธนาพระธรรมกายในพระนิพพานลงซ้อนถ่ายทอดกันลงมาไม่ซ้ําธาตุธรรม กราบอาราธนา พระพุทธเจ้าที่เข้านิพพานไปตั้งแต่ดึกดําบรรพ์นับพระองค์ไม่ถ้วนไม่ซ้ําพระองค์ยิ่งเข้านิพพานไปก่อนเท่าไรบารมียิ่งแก่รอบมากขึ้น กราบทูลให้ถ่ายทอดอานุภาพลงมาผลิตพระของขวัญ เพื่อให้พระของขวัญมีความศักดิ์สิทธิ์...

ดับเดือนดับดาว

เรามักจะได้ยินคู่รักพูดกันว่า “เธอขออะไรฉันให้ได้หมด ยกเว้นแต่ดาวกับเดือนเท่านั้น”ซึ่งหมายความว่าดวงจันทร์และดวงดาวเป็นสิ่งที่คนทั่วไปมักคิดว่าอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะท่านสามารถเอาดาวและเดือนมาให้ลูกศิษย์ของท่านได้เล่นกันในโรงงานทําวิชชาเพื่อความผ่อนคลาย ท่านจะบอกว่า “เออ เรามาดับดาวดวงนั้นกันดีกว่า” ท่านจะเลือกดับดาวเพียงบางดวงเท่านั้น โดยเลือกเฉพาะดวงที่เป็นเสมือนสถานีที่สถิตของกระแสบาปอกุศล คอยส่งผลร้ายต่อโลกและสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นดวงดาวที่มีผลเสียต่อชีวิตของมนุษย์ ก่อนที่จะสั่งดับดาว ท่านจะออกไปยืนดูท้องฟ้าข้างนอก พร้อมกับชี้ว่าให้ดับดาวดวงนั้นตามตําแหน่งที่ชี้ไป “ไปดูสิวะ ดาวดวงนั้น...เอาดวงนี้นะอย่าไปดับผิดดวง” แล้วก็กลับเข้ามาสั่งงาน ทุกคนก็จะช่วยกันดับดาวที่ท่านเลือก พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านบอกกับคุณยายและหมู่คณะผู้ทําวิชชาว่า การจะดับดาวได้นั้น อุปมาว่าเราต้อ งรู้เสียก่อนว่าหม้อแปล งอยู่ตร...

เรียกฝน เก็บฝน

สมัยที่หลวงพ่อยังเป็นนักศึกษามาเรียนสมาธิกับคุณยาย มักจะได้ยินคุณยายรําพึงบ่อยๆ ว่า“เทวดาไปเอาฝนมาตกหน่อย” แล้วอีกไม่นานฝนก็ตกจริงๆ บางครั้งคนที่จะออกไปทํานาหรือเกี่ยวข้าวจะต้องมาคอยฟังว่าคุณยายรําพึงอะไรหรือเปล่าแม้แต่ในยุคบุกเบิกก่อสร้างวัดพระธรรมกาย หลวงพี่ชิตชัย มหาชิโต ซึ่งตอนนี้มรณภาพไปแล้ว หากท่าน ต้องควบคุมการเทปูนเพื่อก่อสร้างถาวรวัตถุในวัดท่านก็จะต้องมาเรียนคุณยายให้ช่วยทําวิชชาเก็บฝนเอาไว้ไม่ให้ตกเพราะถ้าฝนตกแล้วก็จะส่งผลกระทบทําให้งานก่อสร้างล่าช้าใน สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ยังมีชีวิตถ้าหากมีเหตุการณ์ที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ก็จะมีผู้มากราบเรียนท่านในช่วงที่ท่านออกรับแขกว่าหลวงพ่อเจ้าขา ที่จังหวัดนั้น ฝนไม่ตกมานานแล้วแล้งเหลือเกิน ทํานาไม่ได้ขอบารมีหลวงพ่อช่วยเอาฝนไปตกยังบริเวณนั้นด้วย ท่านก็รับคํา ก่อนจะกลับท่านก็บอกว่า “ตกสิน่า” แล้วก็ให้ไปทําใจใสๆ กันพอกลับเข้าไปในโรงงานทําวิชชา ท่านก็สั่งงานผู้ทําวิชชาให้เอาฝนไปตกที่จังหวัดนั้น เป็นการใช้อานุภาพวิชชาธรรมกายควบคุมดินฟ้าอากาศแล้วทําให้ฝนตกได้

Editor Picks