อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

หน้าแรกบทความ

บทความ

Most Commented

บูชาข้าวพระพุทธเจ้า

พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ํามีมโนปณิธานที่จะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ซึ่งต้องอาศัยกําลังบุญบารมีมาก ถ้าหากไม่มากพอย่อมสู้พญามารไม่ไหวเราต้องอาศัยบุญในการตัดวงจรบาป จากหนักผ่อนให้เป็นเบา จากเบาเป็นหาย เพื่อย่นระยะทางไปสู่ที่สุดแห่งธรรม บุญจะนําพาให้ไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้โดยสะดวกและปลอดภัย สามารถสร้างบารมีใน สังสารวัฏได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์โดยง่าย เราจึงจําเป็นจะต้องมีบุญใหญ่และมีบุญมากเป็นพิเศษ คุณยายทองสุขสําแดงปั้น ได้ร่วมกับคุณยายจันทร์ขนนกยูง ในการค้นคว้าหาวิธีสั่งสมบุญใหญ่ในที่สุดท่านก็ได้ค้นพบการบูชาข้าวพระด้วยวิชชาธรรมกาย ซึ่งผู้เข้าถึงวิชชาธรรมกายจะเห็นว่าบุญนี้เป็นบุญพิเศษที่ยิ่งใหญ่ สามารถช่วยย่นระยะเวลาและหนทางในการสร้างบารมีเพื่อมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้เป็นบุญที่ละเอียดประณีต ทําน้อยแต่ได้มากทํามากยิ่งได้มากขึ้นทับทวีทําให้มีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีพรั่งพร้อมทั้งรูปสมบัติทรัพย์สมบัติคุณสมบัติลาภ ยศสรรเสริญ สุข มรรค ผล นิพพานและวิชชาธรรมกาย ในช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ คุณยายทั้งสองจะค้นคว้ากันเองตามลําพัง ท่านเริ่มศึกษาด้วยการนําดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาพระพุทธเจ้าก่อนเมื่อคุณยายทองสุขและคุณยายจันทร์ศึกษาค้นคว้าจนกระทั่งค้นพบวิธีได้บุญใหญ่นี้แล้ว ต่อมาจึงเตรียมสํารับอาหารหวานคาวพร้อมดอกไม้ธูปเทียนนําไปถวายเป็นพุทธบูชา ท่านเริ่มทดลองกระทําเป็นครั้งแรกกับคุณยายจันทร์ หัดบูชาข้าวพระกันโดยเริ่มจากภาชนะธรรมดาๆ...

พัฒนาเศรษฐกิจพิชิตโรคภัย

ในยุคสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ทําวิชชาพร้อมกับหมู่คณะในโรงงานทําวิชชา มีอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งเศรษฐกิจตกต่ํามาก ก็คือช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเพราะมีการรบราฆ่าฟันกันทั่วโลก ถึงแม้ปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจะหนักหนาสาหัส แต่หลวงปู่ก็ไม่รู้สึกหนักใจ ท่านตั้งใจที่จะพลิกเศรษฐกิจให้ได้จึงสั่งให้หมู่คณะที่ทําวิชชาด้วยกันแก้ไขภาวะเศรษฐกิจตกต่ํา คุณยายยกตัวอย่างคําสั่งของพระเดชพระคุณหลวงปู่ให้ฟังว่า “ต้องยกประเทศชาติศาสนา วิชชาธรรมกายให้สูงขึ้น ให้ประเทศไทยเป็นปิ่นนานาประเทศ ให้แก้ไขภาวะเศรษฐกิจตกต่ํา ไปดูซิใครทําให้มันตก” ท่านสาวไปถึงต้นเหตุเลยว่าก่อนที่จะเกิดเป็นภาวะเศรษฐกิจตกต่ําในเมืองมนุษย์ใครเป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นเสมือนหุ่นที่ถูก เชิดด้วยบุญและบาป จึงต้องไปดูต้นเหตุที่ส่งกระแสบาปกรรมมาทําให้มนุษย์ตกทุกข์ได้ยาก คณะผู้ทําวิชชาจึงต้องไปดูที่ต้นเหตุว่าเป็นมาอย่างไร แล้วก็ดับสาเหตุนั้นด้วยวิชชาธรรมกาย นอกจากการแก้ไขเศรษฐกิจแล้ววิชชาธรรมกายยังสามารถช่วยพัฒนาสุขภาพได้อีกด้วย โดยค้นหาสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ผู้ทําวิชชาได้จะเห็นว่าโรคภัยถูกผลิตขึ้นไม่ซ้ํากัน แต่ที่สามารถแก้ไขได้จนกระทั่งมีผลมาถึงเมืองมนุษย์ก็มีไม่กี่โรค เวลาแก้พระเดชพระคุณหลวงปู่จะสั่งให้ทําแต่ไม่ใช่การสั่งลอยๆ ด้วยวาจาเท่านั้น คุณยายเล่าว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่จะดําเนินจิตเข้าไปสู่ภายในไปอยู่ในจุดที่เห็นสาเหตุของการเกิดโรคได้แล้วท่านก็ให้ตรวจตราดูว่าใครเป็นต้นคิด แล้วก็สั่งงานให้แก้ไข ณ จุดนั้น...

แก้ไขทุกข์มนุษย์

ผู้ทําวิชชาจะต้องทําหน้าที่อยู่ในโรงงานทําวิชชาเป็นกิจวัตร แต่ก็สามารถออกมาทําหน้าที่ข้างนอกได้บ้างในเวลาที่พระเดชพระคุณหลวงปู่รับแขก ซึ่งก็คือช่วงเวลาที่ญาติโยมมากราบหลวงปู่เพื่อขอบารมีท่านให้ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ พระเดชพระคุณหลวงปู่จะให้ผู้ทําวิชชาในโรงงานออกมากับท่านด้วยหนึ่งคน บางครั้งก็เป็นคุณยายหรืออาจจะเป็นท่านอื่นๆ หลวงปู่จะใช้งานโดยให้ไปดูว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของแขกที่มากราบนั้นตายแล้วไปไหนท่านจะสั่งว่า “ลูกจันทร์ไปตามมาซิ” คุณยายก็จะรับคําว่า “เจ้าค่ะ” แล้วก็นั่งทําสมาธินิ่งๆ เพื่ออาศัยอานุภาพวิชชาธรรมกายในการตามหาผู้ที่ละโลกไปแล้ว นอกจากนี้ พระเดชพระคุณหลวงปู่ยังช่วยแก้ไขทุกข์ภัยให้กับมนุษย์ หาวิธีการที่จะไม่ให้มนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ให้อยู่ดีกินดีฝนตกต้องตามฤดูกาล...

พัดขนนกยูง

ในการทําวิชชาในโรงงานนั้นบางครั้งก็มีกิจกรรมให้ผ่อนคลายกันบ้าง ครั้งหนึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ได้พัดขนนกยูงมาหนึ่งด้าม แต่ลูกๆ ในโรงงานทําวิชชาของท่านมีอยู่หลายคน การมอบพัดขนนกยูงจึงต้องใช้วิธีเสี่ยงบุญ ใครมีบุญก็จะได้รับพัดขนนกยูงไปท่านจึงให้จับสลากกัน เนื่องจากคุณยายอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ท่านจึงจับสลากเป็นคนสุดท้าย โดยสลากได้ผ่านมือของผู้ทําวิชชาคนแล้วคนเล่าจนกระทั่งมาถึงท่านท่านบอกว่าระหว่างนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่ทํานิ่งๆ เฉยๆ จรดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายเท่านั้น พอได้สลากใบสุดท้ายแล้วท่านก็อ่านไม่ออก ต้องยื่นให้คนอื่นอ่านให้ฟัง เขาก็ประกาศว่า “พี่จันทร์ได้ พัดขนนกยูง... พี่จันทร์นามสกุลขนนกยูง ได้พัดขนนกยูง” ซึ่งบรรดาผู้ที่จับสลากด้วยกันนั้น แต่ละคนล้วนเป็นผู้มีบา รมีแก่กล้าแล ะเชี่ย วชาญ วิชชาธรรมกายด้วยกันทั้งสิ้น แต่สลากก็ผ่านมือทุกคนจนมาถึงคุณยายได้ พัดขนนกยูงจากมืออันมีสิริของพระเดชพระคุณหลวงปู่จึงตกเป็นของคุณยาย นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ใจ ถึงแม้คุณยายจะจับสลากได้พัดขนนกยูงแต่ท่านก็ไม่ได้ยึดติด...

อยากเปลี่ยนบรรยากาศ

เป็นที่รู้กันดีว่า ผู้ที่อยู่ในโรงงานทําวิชชามักจะไม่ค่อยได้ออกไปไหน เมื่อถึงเวลาทําวิชชาคณะผู้ทําวิชชาก็จะเดินเข้าไปแล้วก็จะมีการปิดประตูใส่แม่กุญแจไว้มียามเฝ้าอีกหลายชั้น ดังนั้นผู้ที่อยู่ในโรงงานทําวิชชาจะต้องเป็นผู้ที่รักการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง จึงจะสามารถใช้ชีวิตเช่นนี้ได้ ผู้ทําวิชชาบางคนบอกว่าอยู่อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืนเป็นเดือนเป็นปีไม่เคยได้ออกไปที่ไหนเลย หลายท่านได้ขออนุญาตหลวงปู่วัดปากน้ําไปเปลี่ยนบรรยากาศนอกวัดบ้าง เช่น ขอไปทําบุญที่โน่นที่นี่ ไปทอดกฐินทอดผ้าป่า บวชพระ เป็นต้น ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ก็อนุญาตตามเห็นสมควร แม้ว่าใจจริงแล้วจะไม่อยากให้ออกไปก็ตาม ส่วนคุณยายกลับเป็นบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนเลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณยายเล่าว่ามีผู้ทําวิชชาในโรงงานกราบขออนุญาตพระเดชพระคุณหลวงปู่เพื่อไปต่างจังหวัด หลวงปู่ถามว่า “ไปทําไมวะ” “ลูกจะไปกราบรอยพระบาท” หลวงปู่ก็ถามว่า “มึงว่าตัวกับตีนอันไหนดีกว่ากัน” “ตัวดีกว่า” ท่านก็เลยให้ไปกราบพระประธานในโบสถ์สรุปก็คือไม่ต้องไปต่างจังหวัดนั่นเอง อีกครั้งหนึ่ง คุณยายเองอยากจะออกไปข้างนอกบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ จึงกราบเรียนหลวงปู่วัดปากน้ําว่า...

บางสิ่งที่ตอบไม่ได้

บุคคลเช่นคุณยายนี้ยากที่จะหาได้ในโลกและจักรวาล ท่านอ่านหนังสือไม่ออก นับตัวเลขไม่ได้แต่สามารถตอบคําถามทุกคําถามของพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่ถามขึ้นท่ามกลางผู้รู้ทั้งหลายในโรงงานทําวิชชาได้ท่านตอบได้ทุกคําถาม แต่มีอยู่คําถามหนึ่งที่คุณยายตอบไม่ได้และถึงกับทําให้ท่านอึ้งไปคุณยายจําเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างแม่นยํา และท่านได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า วันหนึ่ง หลังจากที่หลวงปู่วัดปากน้ําถามคําถามเกี่ยวกับการทําวิชชาเสร็จแล้วท่านก็พูดขึ้นว่า “ลูกจันทร์ปลาสลิดอร่อยตรงไหนวะ”เป็นคําถามหักมุมที่หลวงปู่ถามโดยคุณยายยังไม่ทันตั้งตัว ปกติแล้ว ไม่ว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ถามอะไร คุณยายจะสามารถตอบได้ทุกคําถามอย่างคล่องแคล่วไม่ติดขัด แต่เมื่อพบกับคําถามข้อนี้คุณยายถึงกับชะงัก อึกอัก ตอบไม่ได้เพราะท่านไม่ได้สนใจเรื่องรับประทานอาหารเลย ท่านเพียงแต่รับประทานเพื่อให้ร่างกายมีกําลังในการปฏิบัติธรรมทําความเพียร จึงไม่ได้ใส่ใจหรือยึดติดกับรสชาติของ อาหาร ด้วยเหตุนี้ท่านจึงจํารสชาติของอาหารไม่ได้ เมื่อคุณยายตอบคําถามข้อนี้ไม่ได้พระเดชพระคุณหลวงปู่ก็มีอาการร่าเริง หัวเราะหึๆ แล้วก็ไม่ว่าอะไร พอหลวงพ่อถามคุณยายว่าท่านรู้สึกอย่างไร คุณยายก็บอกว่าท่านไม่ค่อยเข้าใจว่าทําไมหลวงปู่วัดปากน้ําจึงขํา แต่หลังจากนั้นคุณยายก็ไม่ต้องตอบคําถามประเภทนี้อีกเลยจนตลอดชีวิต

Editor Picks