Getting your Trinity Audio player ready...
|
สมัยนั้นการคมนาคมลําบากเดินทางไปเรียนธรรมะเป็นประจําก็ไม่สะดวกท่านเศรษฐินีจึงเชิญอาจารย์สอนปฏิบัติธรรมมาจากวัดปากน้ํา ภาษีเจริญ แล้วบุญก็บันดาลให้คุณยายได้พบกับผู้ที่เคยสร้างบารมีร่วมกับท่านมานานนับภพนับชาติกันไม่ถ้วน คือ คุณยายอุบาสิกาทองสุก สําแดงปั้น ผู้เป็นปฐมาจารย์ขณะนั้นท่านยังครองเพศคฤหัสถ์ยังไม่ได้บวชเป็นแม่ชีพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ําได้มอบหมายให้ท่านทําหน้าที่เผยแผ่เพราะท่านเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว ท่านจึงได้มาแนะนําธรรมปฏิบัติที่บ้านของคุณนายเลี้ยบ ซึ่งคุณยายอาศัยอยู่เวลาคุณนายเลี้ยบเรียนธรรมะก็จะนั่งกันบนดาดฟ้า ส่วนคุณยายแม้มีความสนใจอย่างมากอยากจะตามขึ้นไปเรียนด้วยแต่ก็ไม่กล้าเพราะคิดว่าตนเป็นคนรับใช้ไม่ควรที่จะเข้าไปนั่งกับเจ้านาย ท่านจึงได้แต่แอบเมียงมองดูและเงี่ยหูฟังว่าสอนอะไรบ้างเมื่อได้ยินคําว่า “สัมมา อะระหัง” เท่านั้นก็ดีใจ แล้วทุ่มเทสุดตัวโดยบริหารจัดสรรเวลาทําภารกิจที่ได้รับมอบหมายเอาไว้ให้เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์อย่างไม่มีที่ติและสงวนเวลาที่เหลือเอาไว้สําหรับการประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างแอบๆ ซ่อนๆ ลักลอบทําความดีโดย
ลองปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง
นอกจากนี้คุณยายยังต้องทําความดีเพิ่มเติมด้วยการดูแลและอุปัฏฐากคุณยายทองสุกผู้เป็นครูบาอาจารย์ของคุณนายเลี้ยบด้วยหวังว่าท่านจะถ่ายทอดธรรมะคือวิชชาธรรมกายให้ เมื่อคุณยายอาจารย์ทองสุกมาพักอยู่ที่บ้านเพื่อสอนธรรมะ ท่านก็จะดูแลซักรีดเสื้อผ้า จัดหาอาหาร ที่พัก ที่หลับที่นอนและทุกสิ่งทุกอย่าง พร้อมๆ กับการดูแลเอาอกเอาใจเจ้าของบ้าน งานของคุณยายจึงหนักมากแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคที่ทําให้ท่านมีข้ออ้าง ข้อแม้หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติธรรมทุกวันท่านจะรีบทํางานแล้วก็ชิงช่วงเวลาที่มีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยมาแอบปฏิบัติธรรมฝึกใจหยุดใจนิ่ง เพราะท่านทราบมาว่าต้องปฏิบัติธรรมเท่านั้นจึงจะเข้าถึงพระธรรมกายได้
คุณยายท่านทําอยู่อย่างนี้จนกระทั่งคุณนายเลี้ยบและคุณยายทองสุกเกิดความเห็นใจ จึงอนุญาตให้เรียนธรรมะด้วยกัน
บนดาดฟ้าอย่างเปิดเผย คุณยายรู้สึกดีใจมากเวลากลางวันท่านก็ขยันทํางานให้เสร็จเพื่อที่จะได้มีเวลาเรียนธรรมะกับคุณยายทองสุกเมื่อเข้าเรียนแล้ว ท่านก็จะได้ยินแต่เรื่องนรกสวรรค์ที่คุณยายทองสุกเล่าให้ฟังอยู่เรื่อยๆจึงเป็นแรงผลักดันให้ท่านตั้งใจฝึกปฏิบัติยิ่งๆขึ้นไปอีก ท่านต้องขยันทํางานบ้านเพื่อหาเวลาว่างมาปฏิบัติธรรมเพิ่มเติม แต่ก็นั่งได้ไม่นานเท่าไรเพราะเกรงว่าคุณนายเลี้ยบจะตําหนิเรื่องงาน ท่านต้องแอบทําความดีอยู่เสมอๆ แม้จะมีเวลาว่างแค่ 5 นาทีก็จะเดินเข้าห้องพระเพราะห้องพระไม่ค่อยจะมีใครเข้ากัน พอได้ยินเสียงใครเดินผ่านมาก็จะลุกทันทีปฏิบัติใหม่ๆ ก็รู้สึกทึบๆ ตื้อๆ ต่อมาจึงค่อยๆ โล่ง โปร่ง เบา สบาย แต่ผลการปฏิบัติธรรมก็ยังไม่คงที่นัก วันนี้ได้พรุ่งนี้ไม่ได้สลับกันไปมา ต้องค่อยเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ กว่าจะมีประสบการณ์เห็นจุดเล็กๆ ที่เหมือนดวงดาวก็ใช้เวลาพอสมควร
ท่านเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า วันหนึ่งท่านไม่ได้คิดอะไรรู้สึกว่าใจนุ่มและนิ่ง ในท่ามกลางความมืดท่านก็เริ่มเห็นจุดใสๆเหมือนดวงดาวที่เกิดขึ้นมาเองพร้อมกับความสุขในขณะที่รู้สึกว่าตัวหายไป ท่านเล่าให้ฟังว่า ยายมีความสุขจัง เพียงแค่ได้เห็นจุดใสๆ เล็กๆ เหมือนดวงดาวในอากาศ แล้วดวงดาวนั้นก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น บางวันก็ชัดมาก บางวันก็ชัดน้อย เห็นอยู่เกือบทุกวันท่านจึงกราบเรียนคุณยายทองสุก “พี่ๆ ฉันเห็นดวงใสๆ แล้ว” คุณยายทองสุกท่านก็ย้ําว่าให้หยุดนิ่งต่อไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่นั้นท่านก็พยายามประคองใจอยู่ตลอดเวลา ทําสมาธิเพียงแค่วันละสองเวลา คือยามหลับตากับลืมตา ไม่ว่าจะทํางานบ้านหรือทํากิจใดๆท่านก็รักษาใจให้อยู่ภายในไปด้วย หยุดนิ่งดูดวงที่ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ดูไปสบายๆ จนกระทั่งวันหนึ่งท่านได้เห็นดวงชัดใส ท่านบอกว่าใสมากมีขนาดเท่ากับฟองไข่แดงของไก่ ติดอยู่ที่กลางกาย แล้วก็จรดใจนิ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย ท่านบอกว่าองค์พระขึ้นมาเองแล้วก็เกิดความสุขความปีติใจอย่างไม่มีประมาณ
กว่าที่คุณยายขอ งเราจะเข้าถึ งพระธรรมกายได้ก็ต้องอาศัยความเพียรความอดทน และความเสียสละ ยอมทนทุกอย่าง ท่านต้องทําอย่างจริงจังต่อเนื่องกันแล้วในที่สุดท่านก็สมหวัง ความสําเร็จของท่านจึงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายๆ และเมื่อท่านได้เข้าถึงพระธรรมกายแล้ว ท่านก็มุ่งมั่นทําในสิ่งที่ปรารถนาต่อไป นั่นคือการตามหาพ่อในปรโลกเพื่อสะสางเรื่องที่ยังค้างคาใจมาเนิ่นนานนั่นเอง