Getting your Trinity Audio player ready...
|
ความเป็นอยู่ของคุณยายเมื่อเข้ามาอาศัยในวัดปากน้ําใหม่ๆ ไม่สะดวกสบายนัก ที่นอนที่มีอยู่ก็เป็นเตียงไม้เก่าๆ เอียงๆ ผุพัง สกปรก และเต็มไปด้วยตัวเรือด ส่วนมุ้งก็ขาด ท่านจึงจัดการซ่อมแซมโดยต่อเตียงให้แข็งแรงและเช็ดจนสะอาดสะอ้านส่วนมุ้งก็นํามาปะชุนให้ใช้งานได้
คุณยายนึกอยู่เสมอว่าท่านไม่ได้มาเพื่อแสวงหาความสะดวกสบาย แต่ท่านมาเพื่อศึกษาวิชชาธรรมกาย ถ้าต้องการความสะดวกสบายก็ควรจะอยู่ที่บ้าน แต่ในเมื่อมาอยู่วัดเพื่อเรียนธรรมะแล้วสิ่งเหล่านี้จึงไม่ควรเป็นอุปสรรค คิดแล้วใจของท่านก็ชื่นบาน
ตกกลางคืนเมื่อคุณยายเข้านอนแล้ว ตัวเรือดที่ซุกซ่อนอยู่ตามรอยต่อของเตียงไม้ก็ออกมากัดท่านคุณยายจึงต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาจับตัวเรือดใส่กระโถนโดยนําผ้าเช็ดหน้าที่ไม่ใช้แล้วมาวางรองในก้นกระโถน แล้วค่อยๆ จับตัวเรือดใส่ลงไป จากนั้นจึงนํากระดาษแข็งปิดปากกระโถนเอาไว้พอตัวเรือดกัดทีหนึ่งก็ตื่นขึ้นมาจับตัวเรือดใส่กระโถนครั้งหนึ่ง แล้วปิดกระดาษแข็งเอาไว้เป็นเช่นนี้ตลอดทั้งคืน ถึงตอนเช้าก็นําไปปล่อย ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ใจของท่านก็ปลื้ม
อยู่ตลอดเวลา ท่านทําอย่างนี้จนกระทั่งจับตัวเรือดได้หมดเรียบร้อย ไม่มีเหลือให้ปล่อยอีก เตียงของท่านจึงสะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม
ด้วยความที่คุณยายเป็นคนสันโดษ มักน้อยยินดีตามมีตามได้แม้จะได้รับเตียงผุพัง และมุ้งทั้งเก่าทั้งขาด ท่านก็ยังมีความพึงพอใจ นํามาซ่อมแซมและทําความสะอาดจนกระทั่งสามารถใช้งานได้ท่านไม่เคยบ่น ไม่เคยกล่าวคําผรุสวาท พูดแต่คําดีๆ เป็นคําที่ไพเราะ ใครอยู่ใกล้ท่านก็เย็นอกเย็นใจ เตียงของท่านสะอาดมาก ใครได้นั่งก็รู้สึกสบาย บริเวณเตียงของท่านจึงกลายเป็นสโมสรเล็กๆ ที่ชุมนุมของนักรบกองทัพธรรมผู้ที่ทําวิชชาด้วยกัน เป็นสโมสรของคนดีมีศีลธรรมในที่สุด
ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ตัดสินด้วยตนเองว่าอยากจะหาความสุขหรือความทุกข์ใส่ตัว ถ้าเราจะหาความสุขก็ต้องคิดแบบหนึ่ง แต่ถ้าต้องการหาความทุกข์ก็ต้องคิดอีกแบบหนึ่ง ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ใจของเราเองเหมือนอย่างคุณยายที่คิดว่า แม้มีเตียงเก่าชํารุดก็ยังดีกว่าไม่มีเตียง ถ้าเตียงพังเราก็สามารถซ่อมได้แต่ถ้าไม่มีเตียงเราก็ต้องนอนที่พื้น วิธีคิดของท่านแบบนี้ทําให้ท่านมีแต่ความสุขอยู่ตลอดเวลา