Getting your Trinity Audio player ready...
|
ช่วงที่เริ่มเรียนธรรมะ กับคุณยายใหม่ๆราวปี พ.ศ.2506 – 2507 นั้นหลวงพ่ออายุ 19 – 20 ปี หลังจากที่ถาม คุณยายเรื่อง นรกสวรรค์จนได้รับคําตอบ แล้ววันถัดมาท่านก็ให้หลวงพ่อลงมือปฏิบัติธรรมโดยท่านสั่งหลวงพ่อว่า “คุณนั่งไปนั่งไปนั่งไป” หลวงพ่อจึงนั่งอยู่อย่างนั้นซึ่งท่านเองก็นั่งด้วยเพราะฉะนั้นก้าวแรกของหลวงพ่อคือการนั่งสมาธิถ้าเราซักถามกันเพียงอย่างเดียวก็จะไม่ได้เห็นของจริงสมดังภาษิตที่ว่า “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” ถ้าไม่นั่ง ก็จะไม่หายสงสัยเราฟังทฤษฎีมา แล้วว่าต้องทําอย่างนั้นอย่างนี้แล้วเราก็ต้องนํามาปฏิบัติด้วยตัวของเราเอง ไม่มีใครสามารถทําแทนเราได้แม้ แต่คุณยายเมื่อปฏิบัติแล้วจึงเกิดปฏิเวธคือประสบการณ์ภายใน ซึ่งต้องบังเกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้นคุณยายจึงให้หลวงพ่อนั่งไปเรื่อยๆก่อนสมัยนั้นยังอยู่ในวัยหนุ่มยังไม่รู้สึก เมื่อยเท่าไรรู้สึกสนุก และสบายใจมีความสุขคือไม่ได้คิดอะไรมากพอถึงเวลาเย็นคุณยายต้องไปเข้าโรงงานทําวิชชาท่านก็บอกหลวงพ่อว่า “คุณนั่งอยู่ตรงนี้เดี๋ยวยายไปเข้าที่ก่อน”
เมื่อมีโอกาส หลวงพ่อจะถามคําถามต่างๆกับคุณยายบ้างสิ่งที่หลวงพ่อซักถามท่านนั้น ส่วนมากเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครถามกันในบรรดาศิษย์ของคุณยายนั้น มีแต่หลวงพ่อที่ซักถามมากที่สุด คือ ถามทุกเรื่องซักไปคุยไปแต่ท่านไม่ได้รําคาญหลวงพ่อแต่อย่างใดพอหลวงพ่อได้ฟังคําตอบ แล้วก็จะกระเถิบๆไปนั่งใกล้ๆท่านเพื่อฟังให้ชัดๆท่านก็ไม่ว่าอะไรเพราะท่านเอ็นดูหลวงพ่อเห็นว่าเรารักธรรมะ และมานั่งสมาธิกับท่านทุกวันนานวันเข้าหลวงพ่อก็เริ่มคุ้น ว่าเรื่องนรกสวรรค์ กับการช่วยทุกข์มนุษย์นั้นเป็นเรื่องปกติของท่านสิ่งที่แปลกคือเวลาท่านตอบคําถามของหลวงพ่อนั้นคําตอบจะไม่จบเท่าที่ถาม แต่จะทิ้งท้ายให้ชวนติดตามตอนต่อไป เวลาตอบท่านจะตอบกับหลวงพ่ออย่างหนึ่งแต่ตอบกับแขกคนอื่นๆแบบเรียบๆธรรมดาๆฟัง แล้วจบในตัวไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อได้อีก เพราะคําตอบจบอยู่ในตัวแล้ว
นึกย้อนหลังไปยังอัศจรรย์ใจว่าท่านเหมือนจะจูงเราไปเรื่อยๆ หลวงพ่อสงสัยว่าท่านเอาความรู้เหล่านี้มาจากไหนไม่เห็นท่านอ่านหนังสือหรือค้นคว้าจากตําราเล่มใด และท่านยังอ่านหนังสือไม่ออกอีกด้วย แม้แต่ตัวเลขก็อ่านไม่ออกถึงขนาดว่าเวลาดูปฏิทินยังต้องใช้วิธีจดจําเอาว่าช่องนี้วัน อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ แต่ทําไมท่านสามารถตอบคําถามได้อย่างลุ่มลึกตอนนั้นหลวงพ่อรู้สึกว่าคําถามของเรานี้ลึกทีเดียวแต่กลับเป็นเรื่อง ง่ายๆสําหรับท่าน นับเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากท่านสามารถตอบได้ไม่ซ้ํากัน เพราะคําถามของหลวงพ่อก็ไม่ซ้ําเหมือนกันถามคําถามไปเรื่อยๆทั้งเรื่องภพภูมิเรื่องชาติเรื่องโลก เรื่องจักรวาลโดยนึกไม่ถึงว่า คนไม่รู้หนังสือจะตอบได้บางครั้งลองเอาเรื่อง ในพระไตรปิฎกมาถามท่านก็ระลึกชาติไปยาวนานเอามาตอบได้อีกการสนทนาธรรมกับท่านจึงสนุกและน่าติดตามมากทีเดียวบางคําถามฟังแล้วนึกว่าท่านจะไล่เราออกไปแต่ท่านกลับตอบเรียบๆเฉยๆเช่นถามว่า “ยายคนเกิดมาจากไหนมนุษย์มาจากไหน” ถามเรื่อยไปจนกระทั่งถึงปฐมมนุษย์
ใครๆ อาจไม่เข้าใจหลวงพ่อว่าทําไมชอบถามแปลกๆแต่นั่นคือสิ่งที่หลวงพ่อสงสัยจริงๆจึงนํามาถามคุณยายแล้วท่านก็ตอบอย่างมีเหตุผล ยิ่งรู้ยิ่งสนุกหลวงพ่อถามต่ออีก ว่าภพภูมิต่างๆ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร กายต่างๆเกิดขึ้นได้อย่างไรทั้ง กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม ถามไปเรื่อยๆ ซึ่งท่านตอบได้หมดถามต่อไปจนถึงกายของสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรกคําตอบของท่านเหมือน พลิกของคว่ําให้ หงายขึ้นบอกหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้วหลวงพ่อก็ถามถึงพระธรรมกายซึ่งท่านก็ตอบได้อีก
คําตอบที่หลวงพ่อได้จากคุณยายนั้นเสมือนเรายืนอยู่หน้าห้องที่ประตูปิดสนิท แล้วท่านมาเปิดประตูพร้อมกับผลักเราเข้าไปในห้องทําให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างข้างใน หรือคล้ายๆยืนอยู่หน้าประตูเครื่องบินที่กําลังทะยานไปบนท้องฟ้า แล้วท่านก็เปิดประตูพร้อมกับผลักเราลงไปลอยอยู่กลางอากาศทําให้เห็นอะไรได้ชัดเจน คําตอบของท่านยอดเยี่ยมมากทีเดียวหลวงพ่อยังนึกไม่ถึงว่า คนไม่รู้หนังสืออย่างท่านจะสามารถ ตอบคําถามแบบนี้ได้
ท่านบอกว่า “ยายเห็นอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น” คือ พูดตามภาพที่เห็นในสมาธิ