Getting your Trinity Audio player ready...
|
ย้อนไปถึงวันที่คุณยายให้คําตอบหลวงพ่อ เรื่องนรกสวรรค์เป็นครั้งแรก หลวงพ่อเป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี เมื่อได้ยินได้ฟังคําตอบจากท่านแล้วก็เกิดกุศลศรัทธาบอกท่านว่า “ผมอยากบวช ผมบวชได้ไหม” ซึ่งในขณะนั้นเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณยายตอบว่า “อย่าเพิ่งเลย ไปเรียนให้จบเสียก่อน” ต่อมาเมื่อหลวงพ่อเรียนจบแล้วจึงวางแผนออกบวชในเดือนธันวาคม เพราะคิดว่าต้องทําความเข้าใจกับทางบ้านก่อนเนื่องจากเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นหินในไข่ ส่วนใหญ่เขามีแต่ไข่ในหินที่ต้องทะนุถนอม แต่สําหรับหลวงพ่อเป็นพันธุ์หินในไข่ โดนตีประจําโดนหลายไม้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน ได้ดิบได้ดีเพราะไม้วิเศษนี่เอง
ตั้งใจว่าก่อนบวชจะทําความเข้าใจกับผู้ปกครองที่ประทานไม้วิเศษให้ นอกจากมอบกายมนุษย์มาให้สร้างบารมีแล้วท่านยังคอยดูแลหลวงพ่อในเรื่องต่างๆ เหตุผลอีกประการหนึ่งที่เลือกเดือนธันวาคมเพราะเป็นฤดูหนาว คิดว่าอารมณ์ท่านคงเย็นขึ้นเพราะสภาพอากาศแล้วยินยอมอนุญาตให้บวชโดยง่าย แต่คุณยายบอก ไม่ได้ๆ เราตกลงกันไว้แล้ว จําไม่ได้หรือตอนอายุ 19 ปี ท่านทบทวนความหลังให้ฟังเมื่อครั้งที่ไปขอบวชกับท่านแล้วท่านขอให้เป็นบัณฑิตทางโลกเสียก่อนจึงเป็นนักปราชญ์ทางธรรม เมื่อคุณยายยืนยันอย่างนั้นหลวงพ่อจึงตอบตกลง ในเมื่อคุณยายให้บวชทันทีก็ไม่มีปัญหา เลยหยิบปฏิทินที่แขวนอยู่ตรงเสาของบ้านธรรมประสิทธิ์มาดู เลือก วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ํา ซึ่งหลวงพ่อชอบมากเพราะว่าพระจันทร์เต็มดว เป็นวันสุดท้ายของพรรษาหลัง ตรงกับวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2512
เมื่อดูปฏิทินแล้วก็บอกคุณยายว่าจะบวชวันนี้ แล้วเขียนด้วยลายมือของตัวเองลงบนปฏิทิน คุณยายก็ดีใจ ยังจําใบหน้าของท่านได้ว่าท่านดีอกดีใจ มีเรื่องแปลกคือก่อนบวชนั้น มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รู้สึกเบื่อหน่ายในทุกสิ่ง รวมถึงสถานที่ที่เราเคยไปเที่ยวสนุก กลับกลายเป็นสถานที่ที่น่าเบื่อ แต่ไม่ใช่ความกลุ้มใจ เพียงแต่รู้สึกเฉยๆ กับสิ่งเหล่านั้น ทําให้เข้าใจเรื่องราวของพระสารีบุตรกับพระมหาโมคคัลลานะ ตอนเป็นเพื่อนคฤหัสถ์กันอยู่ท่านเคยไปดูการแสดงตามสถานที่ต่างๆ เพื่อความบันเทิงเพลิดเพลินใจ ถึงตอนหัวเราะก็จะหัวเราะ ตอนที่นักแสดงเขาทําให้โศกก็จะโศก หรือให้สนุกสนานก็จะสนุกสนาน แต่พอถึงจุดอิ่มตัวหรือจุดเปลี่ยนของชีวิตท่านกลับรู้สึกเฉยๆ ด้วยกันทั้งคู่ จนกระทั่งต้องหันมามองหน้ากันเพราะใจตรงกัน ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกัน ต่างก็ถามว่าทําไมวันนี้สหายจึงดูไม่สนุกสนานเหมือน ทุกครั้งที่เคยมาด้วยกันเลย อีกฝ่ายก็ตอบว่า สหายก็เช่นเดียวกันนั่นแหละ ทําไมวันนี้ดูไม่ครื้นเครง ทุกทีเราจะต้องสนุกสนานบันเทิงด้วยกัน ท่านบอกว่า นั่นน่ะสิ ทําไมถึงรู้สึกเบื่อๆ เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นสาระแก่นสาร แล้วในที่สุดก็ชักชวนกันไปบวช หลวงพ่อก็คล้ายๆ อย่างนั้น เพียงแต่ไม่มีสหาย เพราะชอบไปไหนมาไหนตามลําพังผู้เดียวประดุจ
นอแรด คือแรดมีนอเดียว ถ้ามี 2 นอต้องเรียกว่าเขา ก็ไปผู้เดียวประดุจนอแรด ไปแล้วไม่ค่อยสนุก ดูตรงไหนก็ไม่ร่าเริงใจ
เมื่อถึงวันบวช มีผู้ร่วมงานประมาณ 20 กว่าคนเท่านั้น นึกแล้วยังปลื้มใจ ถือว่ามากแล้วเพราะเวลาคุณยายทองสุขกับคุณยายจันทร์บวช ท่านได้เช่าผ้ามาบวชกันสองคนโดยโกนหัวกันวันนั้นเลย หลวงพ่อจึงได้อยู่ในเพศสมณะนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายและขจัดกิเลสอาสวะหรือสิ่งที่เป็นมลทินของใจให้หมดสิ้นไป พร้อมกับสั่งสมบุญกุศลให้มากที่สุดเพื่อตามติดพระเดชพระคุณหลวงปู่และคุณยายไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ไม่ใช่เพื่อการอื่นเลย