อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

จดหมายจากพระกัลยาณมิตร

Getting your Trinity Audio player ready...

มีพระกัลยาณมิตรรูปหนึ่งเขียนจดหมายมา ท่านใช้คําว่า “ขอแสดงอาบัติ” กับคุณครูไม่ใหญ่ ที่จริงอยากอ่านตามลําพัง แต่มีหลายข้อที่ท่านเขียนมาอาจจะไปตรงกับใจใครบางคน จะได้ถือโอกาสตรงนี้ชี้แจง ทําความเข้าใจกันสักนิด

ที่จริงถึงไม่ได้แสดงอาบัติ หรือมาขอขมาอะไร ก็ให้ไปหมดแล้ว เพราะครูไม่ใหญ่อยากจะจากโลกนี้ไปอย่างใจใส ๆ ไม่มีเวรมีภัยกับใคร แต่นี่ก็เป็นความงามของพุทธบุตรที่เมื่อท่านมีความรู้สึกที่ดี เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะแสดง ไม่ปกปิด จะเปิดเผย เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์ เพราะท่านมีพระนิพพานเป็นเป้าหมาย

ท่านเขียนมาย่อ ๆ ว่า

ท่านเคยมีอคติในใจ ที่ยังไม่กล้าบอกกับใครในส่วนลึกก้นบึ้งหัวใจ ซึ่งอาจจะไปตรงกับความคิดของคนอื่น ๆ ที่มีต่อวัดพระธรรมกาย พูดง่าย ๆ กับครูไม่ใหญ่นั่นแหละ แต่เขามักจะเหมารวม ๆ เป็นวัดพระธรรมกาย ไม่รู้เป็นยังไง

ที่จริงว่าครูไม่ใหญ่โดยตรงจะดีกว่า เพราะว่าพระธรรมกาย บาปนะ เพราะคําว่า “ธรรมกาย” เป็นคําสูง หมายถึงพระพุทธเจ้าที่อยู่ภายในตัว หมายถึง พระรัตนตรัย เพราะฉะนั้นถ้าใครรู้สึกไม่ชอบหน้าครูไม่ใหญ่ ก็ขอให้ใช้ตรง ๆ เลย ธัมมชโยบ้าง อย่างนั้น อย่างนี้ อะไรก็ว่ากันไปเถอะ ครูไม่ใหญ่ไม่ถือ ไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร เพราะไม่มีเวลาจะไปคิดเรื่องเหล่านี้ เวลาที่เหลืออยู่ อยากจะได้บุญ อยากจะทํางานพระศาสนา

๑. วัดพระธรรมกายเป็นวัดทุนนิยม เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นทางวัดจะหาวิธีแก้ด้วยเงินอย่างเดียว

วัดพระธรรมกายไม่ใช่วัดทุนนิยม แต่เป็นวัดบุญนิยม คือนิยมสร้างบุญ สร้างบารมี ถ้าจะบ้าก็บ้าเรื่องนี้แหละ บ้าสร้างบุญสร้างบารมี ชวนเขาไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ

๒. วัดพระธรรมกายเป็นวัดไม่ทรงเอกลักษณ์ความเป็นพุทธ เช่น สร้างโบสถ์ไม่เหมือนวัดทั่ว ๆ ไป ผมคิดว่า เมื่อรวมคนได้มาก ๆ ก็กลายเป็นคริสต์ เอาไม้กางเขนไปปักกลางช่อฟ้า

ตอนที่จะสร้างโบสถ์ให้สถาปนิกออกแบบ ได้บอกวัตถุประสงค์ไปว่า อยากได้โบสถ์ที่แข็งแรง ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ เสร็จเร็ว ประหยัด ไม่ต้องใช้เงินเยอะ เพราะไม่ค่อยมีเงิน ถ้าพังก็ซ่อมง่าย ถ้าสร้างโบสถ์ที่วิจิตรงดงามก็ดีนะ ใจก็ประณีต แต่จะเสียเวลานาน ใช้เงินเยอะ ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ เวลาพังก็ซ่อมยาก เพราะช่างที่เกิดมาสร้างไม่เกิดมาซ่อมอีก ทีนี้ถ้าเอาคนรุ่นหลังมาซ่อม เกรงว่าจะเป็นหัวมงกุฎ
ท้ายมังกร กลัวจะต่อกันไม่ติด

เขาออกแบบมาให้ดูหลายแบบ ก็เลือกเอาแบบที่พอใครเห็นพอจะทนได้บ้าง แบบนี้ตรงสเป็ก เร็ว เรียบง่าย ทําความสะอาดง่าย พังซ่อมง่าย ใช้เงินไม่เยอะ และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ จึงได้โบสถ์แบบนี้มา

และจริง ๆ เป็นพุทธมหานิกาย ไม่ใช่นิกายใหม่ แล้วก็ไม่แยกนิกายด้วย กําลังให้ไปกราบเรียนทุก ๆ รูปว่า

“พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน
เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว”

ไม่อยากให้มีนิกายโน้น นิกายนี้ พอดีมีคําว่า ธรรมกาย เขาไม่คุ้น เพราะว่าแม้ธรรมกายมีอยู่ในพระไตรปิฎก แต่ไม่มีใครนํามาเปิดเผย มาแนะนํากัน เพราะรู้จักพระธรรมกายแค่เป็นที่รวมหมวดหมู่แห่งธรรม เหมือนเป็นนามธรรม ไม่เชื่อว่าจะมีหน้ามีตา แต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมารไปค้นพบขึ้นมา แล้วพระในตัวบอก คือ ธรรมกาย ก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ท่านไม่เคยได้ยิน เมื่อไปค้นในพระไตรปิฎก อ้าว มีคํานี้ด้วย เอาล่ะสิ คราวนี้สนุกกันใหญ่เลย เรื่องมันเป็นอย่างนี้

๓. วัดพระธรรมกายเป็นวัดที่จัดหาเงินเข้าวัดแบบแชร์ลูกโซ่ คนไปหาเดินสายจะได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ ให้หัวหน้าสายแต่ละคนที่มีเงินเข้าวัดเยอะ

ขอกราบเรียนพระเดชพระคุณให้ทราบเลยว่า อย่าว่าแต่วัดไม่ให้เงินสักสลึงเลย เขายังต้องเสียเงินมหาศาลอีกด้วย บางคนเอาชีวิตเป็นเดิมพันไปทํางานสร้างบารมี บางคนถึงกับเสียชีวิต บางคนบาดเจ็บ แต่ส่วนใหญ่จะเสียทรัพย์ ถ้าได้เห็นวิธีการทํางานของทีมงานแต่ละคนที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศมีแต่จะชื่นชมอนุโมทนา

ผู้เฒ่าผู้แก่นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปบนถนนลูกรังที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ทั้งฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ตากแดดกันหัวแดง บางทีนั่งรถไป หล่นลงมาก็มี

บางคนไม่สบายก็ยังออกไปทําหน้าที่ เป็นมะเร็งให้คีโม ผมร่วง หนังศีรษะไม่มีผมมาปกป้องระหว่างแดดที่แรงกล้ากับหนังศีรษะ ผิวหนังลอกแล้วลอกอีก เดินฝ่าเปลวแดด เหงื่อโทรมกาย หน้าไม่ได้สวยเลยสักคน แต่ดวงใจใสตลอด ยิ้มแย้มแจ่มใส

บางคนข้ามน้ำข้ามทะเลไปเกาะกลางทะเลก็มี ขึ้นเขาลงห้วย ลําบากทั้งลูกพระ ลูกเณร ลูกอุบาสก อุบาสิกา แล้วก็ลูกทุก ๆ คนที่ออกไปทําหน้าที่อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ได้เห็นแก่ความยากลําบาก เพียงเพื่อจะไปบอกให้ผู้มีบุญที่กระจัดกระจายกันว่า มาสร้างบุญกันเถิด เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี มาทําพระนิพพานให้แจ้ง ชวนทุกคนให้มาถึงธรรม ไปบอกเขาว่าในตัวเรามีพระรัตนตรัย ให้แสวงหาพระในตัว อย่าตายฟรีเลย เพียงเพื่อจะไปบอกเขาอย่างนี้

เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แบบแชร์ลูกโซ่ และแชร์เป็นยังไง ครูไม่ใหญ่เล่นไม่เป็น ไม่รู้จัก ได้ยินแต่เขาลงหนังสือพิมพ์ แล้วเขาก็ถวายข้อหาอย่างนี้มาให้

ปัจจัยทั้งหมดที่ได้มาก็นํามาทํางานพระศาสนา เพราะทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น นั่งเฉย ๆ แค่เราหายใจเข้าออกก็เสียค่าใช้จ่ายแล้ว เพราะเราจะต้องมีชีวิตอยู่จึงหายใจได้ จะมีชีวิตอยู่ได้ ต้องมีอาหาร อาหารไม่ได้หล่นลงมาจากฟ้า มันมีค่าใช้จ่าย กว่าจะมาถึงมือ ถึงท้องได้ ต้องจ่ายกันเป็นระบบเลย

และเพราะความสงสารผู้มีบุญทั้งหลายจะมาตากแดด ตากลม ตากฝน ก็สร้างอาคารแบบง่าย ๆ มีแค่หลังคา มีผนังนิดหน่อย จะได้มาปฏิบัติธรรมร่วมกัน แล้วก็มาช่วยกันทําความสะอาด

ทําไมสร้างใหญ่? ก็คนมาเยอะจึงสร้างใหญ่

จริง ๆ แล้ว ครูไม่ใหญ่อยากอยู่เฉย ๆ
อยู่เฉย ๆ ก็หาว่าพระขี้เกียจอีก

กว่าจะคิด Project ก็ยากแล้ว ออกแบบยากอีก ไปหาเงินมาสร้างยิ่งยาก เพราะครูไม่ใหญ่ไม่ได้ออกไปหา ลูก ๆ ออกไปหาทั้งนั้น ลําบากกันทุกคน

หาเงินมาก็ยาก มาสร้างก็ยากอีก รักษาก็ยากอีกแล้ว แต่ทั้งหมดนี้เป็นศาสนประโยชน์ เป็นสมบัติของพระศาสนาทั้งนั้น

ถ้าเป็นโรงเรียน ก็เป็นโรงเรียนสอนวิชชาชีวิต ก็คล้าย ๆ กับชวนคนไปสร้างโรงเรียนที่สอนวิชาชีพทางโลก เรื่องทํามาหากิน แต่โรงเรียนนี้สอนเรื่องวัฏฏะ สอนความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนวิชชาชีวิต หรือจะเปรียบเป็นโรงพยาบาลก็ได้ แต่รักษาโรคกิเลสทางใจ ที่เกิดจากโลภะ โทสะ โมหะ

อยากอยู่เฉย ๆ จังเลย แต่เขาว่าขี้เกียจอีก พระบวชมาแล้วไม่ได้ทําอะไร พอพระจะทําหน้าที่ของพระ งานของพระก็ว่าอีก นี่มันเป็นอย่างนี้

ท่านถามมา ๓ ข้อ ก็เลยถือโอกาสตอบตรงนี้

เพราะฉะนั้น ขอยืนยันตรงนี้ว่า นักรบพันธุ์ตะวันในสมรภูมิแห่งการสร้างบารมี ได้รับเพียงแค่นี้ คือ ความรู้สึกจากใจของครูไม่ใหญ่ให้กับลูก ๆ ทุกคน นอกนั้นไม่มีเลย มีแต่เขาเอามาให้ ทั้ง ๆ ที่เขาสละชีวิต อวัยวะ ทรัพย์ ความสุขในครอบครัว และทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไปทําหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ในการที่จะไปชักชวนผู้มีบุญทั้งหลายได้ทราบข่าวการสร้างบารมี ให้มาร่วมบุญด้วยกัน เพราะบุญเท่านั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสําเร็จในชีวิตในสังสารวัฏ

ที่ตายไปก็เยอะ
บาดเจ็บก็มาก

ทรัพย์ไม่ต้องห่วงเลย…ให้เป็นอาชีพ

นี่แหละ…
“นักรบกล้าพันธุ์ตะวัน”

๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗

บทความที่เกี่ยวข้อง