Getting your Trinity Audio player ready...
|
การทําบุญอย่าดูเบานะ
ต้องทําให้ถูกหลักวิชชา
อย่าหงุดหงิด ขุ่นมัว
ทั้งก่อนทํา กําลังทํา และหลังจากทําแล้ว
บุญจะได้ไม่หก เราจะได้บุญบริสุทธิ์เต็มที่
อย่านึกว่า เรามีเงินแล้วเรามาทําบุญ เราต้องนึกว่า กว่าจะได้ปัจจัยมา มันเหนื่อยนะ ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ต้องใช้ทุกวิธีการ กว่าจะได้ทรัพย์มา ได้มาแล้ว เรามีกุศลศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย อยากจะสร้างมหาทานบารมี
ความเลื่อมใสศรัทธาก็ไม่ใช่เกิดขึ้นง่าย เกิดยากมาก ขนาดเรา เลื่อมใสศรัทธา บางครั้งยังง่อนแง่น บางครั้งก็เลื่อมใสมาก บางครั้งก็ เลื่อมใสปานกลาง บางครั้งน้อย บางครั้งไม่มีเลย เห็นไหมว่า มันเกิดขึ้นยาก แต่สลายง่าย พอจะเลื่อมใสทีไร มันจะเสียเงินทุกที เกิดความเสียดาย เพราะ กว่าจะได้มามันยาก คิดแล้วคิดอีก จะถูกความตระหนี่ซึ่งเป็นเครื่องมือของพญามารเหนี่ยวรั้งเอาไว้ จะช่วงชิงทรัพย์เอาไว้ไม่ให้บริจาค ไม่ให้สร้าง มหาทานบารมี ชาติต่อไปจะได้จน พอไม่สร้างทาน เขาจะได้เอาผังจนถาวรเสียบเข้าไปได้ สอดเข้าไป จะได้บังคับเราได้ต่อไปในอนาคต อยู่ในกํามือเลย พอชาติต่อไปเรา ยากจนเสียแล้ว บังคับให้ทําชั่วง่าย เพราะชีวิตต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เพราะฉะนั้นทําอย่างไรให้อยู่รอด ก็เอาทั้งนั้น ก็จะตกอยู่ในเงื้อมมือเขา แล้วก็เนื้อนาบุญที่เป็นทักขิไณยบุคคล ที่มีเฉพาะในพระพุทธศาสนา ก็เกิดขึ้นยาก ไม่ใช่เกิดขึ้นง่าย เพราะกว่าจะมีทักขิไณยบุคคล ก็ต้องมี พระพุทธศาสนา จะมีพระพุทธศาสนาได้ ก็ต้องมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วกว่าท่านได้เกิดมา ต้องละชั่ว ทําความดี ทํา ใจให้ใสนับภพนับชาติไม่ถ้วน กว่าจะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ล้วน ๆ มาเป็นผู้นํามวลมนุษยชาติ และเทวดาทั้งหลายได้ก็ยากมาก
เพราะฉะนั้น เวลาเราจะสร้างมหาทานบารมี ต้องทําให้ถูกหลักวิชชา ถ้าทําไม่ถูกหลักวิชชา เราจะถูกปล้นบุญ หรือพูดง่าย ๆ คือ บุญหกคําว่า “บุญหก” ก็ไม่ได้มีอาการเหมือนน้ํากระฉอกนะ มันจะหก เช่น เวลาเราทําบุญ ระหว่างทํานั้นหงุดหงิด ปัดโธ่ กว่าจะทําได้ ปฏิคาหกทักขิไณยบุคคลก็คอยอยู่ ทรัพย์ก็อยู่ในมือ ศรัทธาก็เกิด แต่โดนเขาเสียบเอาความหงุดหงิดเข้ามาในใจ นั่นก็ไม่ถูกใจ นี่ก็ไม่ถูกใจ ทั้งคนสัตว์สิ่งของอะไรก็ไม่ถูกใจหมด อย่างนี้บุญหก นั่นเขาเข้ามาแย่งชิง ตั้งแต่เกิดความคิดหงุดหงิดแล้ว
ยกตัวอย่างเหมือนในห้องนี้คนเต็มห้องแน่นหมดเลย ถ้าใครจะเข้าไปแทนที่ 10 คน ก็จะต้องดึง 10 คนในห้องนั้นออก หรือเหมือนปลาอยู่ในกระป๋อง จะเอาปลาใหม่เข้าไป ต้องเอาของเก่าออก บุญก็เช่นเดียวกันกําลังเต็มอยู่ในใจ แต่ถูกกิเลสในตระกูลโทสะ ทําให้ขัดเคืองขุ่นมัวเข้าไปเสียบ ถ้าเสียบได้ แสดงว่ามันมีช่องว่าง เพราะฉะนั้นบุญนั้นก็ไม่สะอาด100 เปอร์เซ็นต์ ถูกบาปผสมเข้าไปแล้ว อย่างนี้แหละที่เรียกว่า “บุญหก”ความขุ่นมัว ความขัดเคือง ใครทําอะไรก็ไม่ถูกอกถูกใจทั้งนั้น แม้พระให้พร ก็ยังไม่ค่อยถูกใจ องค์นี้เสียงอย่างนี้ ทําไมไม่เอาองค์นั้นเสียงดี ๆ มาให้พร คือมันมีปัญหาไปหมดเลย นั่นแหละเขาจะเสียบมาทางความคิดคําพูด และการกระทํา กิริยาท่าทางของเรา
เวลาหงุดหงิดนี่ อาการจะออกมาทางระบบประสาทกล้ามเนื้อที่ชัดเจน คือบนใบหน้า หน้าก็จะยู่ยี่ ปากก็เบ้ เสียงที่ออกมาทางปากก็ไม่น่าฟัง และทําให้คนข้าง ๆ ไม่สบายใจ เพราะความเครียดระบาดแผ่ซ่านไปในบรรยากาศ อย่างนี้เรียกว่า ไม่ฉลาดในการทําบุญ แล้วก็ไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจว่า ทําอย่างไรจะได้บุญ 100 เปอร์เซ็นต์ 200 เปอร์เซ็นต์ 500 เปอร์เซ็นต์หรือ 1,000 เปอร์เซ็นต์ หรืออยากได้ 100 แต่ได้ 20, 30,40 นี่เพราะความขุ่นมัว ต้องระวังนะลูกนะทีนี้ ถ้าภาพที่เราหงุดหงิดไปเกิดเป็นกรรมนิมิต ให้เห็นตรงรอยต่อก่อนจะถอดกาย ตอนนั้นเรานอนหมดแรง อยู่บนเตียงคนป่วย ไม่ว่าจะด้วยโรคอะไรก็ตาม สรุปว่าไม่มีแรง เสียงก็ไม่มีจะพูด แต่เห็นภาพตัวเองกําลังหงุดหงิด หน้าตาหยุกหยิก เสียงอย่างนั้น พูดอย่างนี้ เอาไฟหรือคําพูดร้อนใจไปใส่ในหูคนโน้นคนนี้รอบ ๆ ข้าง คตินิมิตเกิดขึ้นเลยไปเกิดเป็นยักษ์ชั้นจาตุฯ อย่างนี้สู้ไปเกิดเป็นมนุษย์ยังจะดีกว่าถ้าหากทําบุญด้วยใจที่ขุ่นมัว หงุดหงิด โฉงเฉงคนโน้นคนนี้ มีสิทธิ์ไปเกิดเป็นยักษ์เวลามาเกิดเป็นมนุษย์ สมบัติจะเจือวิบัติ คือ ความโกรธ ความขุ่นมัวนั่น แหละที่เข้าไปสิงไปแทรกในบุญนั้
เวลามาเกิด รูปสมบัติก็จะมีวิบัติเจืออยู่ในรูปสมบัตินั้น สมมติไปประกวดนางงามจักรวาล งามทุกส่วนแต่เกือบได้ หน้าตา รูปร่างตอบคําถามฉะฉาน แต่ตาเอก ตาส่อน คือมันจะมีเชื้อวิบัตินิด ๆจะได้เสื้อผ้า ข้างหน้าสวย แต่ข้างหลังโดนแมลงสาบแทะไปหน่อยกางเกงก็เหมือนกัน ดีแต่ขาดหน่อยหนึ่ง หนูแทะบ้างอะไรอย่างนี้ถอยรถใหม่มา พอขับพ้นอู่ไป โดนเจิมเลย ไม่ใช่หลวงปู่หลวงตาเจิมนะแต่โดนรถคันอื่นเจิม ทําให้เราไม่สบายใจมีลูกน้องบริวาร ก็ชอบทําให้หงุดหงิด กว่างานจะสําเร็จได้ เขาช่วยเราเหมือนกันนะ แต่ช่วยให้หงุดหงิดด้วย กับช่วยให้ได้ทรัพย์ด้วยจะได้บ้านก็ปลวกขึ้น อย่างนี้เราลองนึกดู คือมันได้บ้าง แต่จะมี but “แต่” คือต้องมีอะไรแถม ๆมีแว่นตา ปากกา ก็ชํารุด คอนแทกเลนส์ก็แข็งไป ตาต้องกะพริบ ๆอยู่เรื่อยจะใส่รองเท้า ก็มีรอยตําหนิ ของกินของใช้ดี but แต่แตก แต่บิ่น
แต่หัก
หรือเวลาจะรับประทานอาหาร นั่งร่วมโต๊ะอยู่ในหมู่ชนชั้นสูง เศรษฐี ิทั้งนั้น กําลังรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย กึก ! เจอก้อนกรวดอยู่ในนั้น คนอื่นเขาทานกันดี๊ดี ไม่เป็นไร แต่ของเราตักมาเจอก้อนกรวด นี่เพราะมีเชื้อโทสะ คุณสมบัติ ทําข้อสอบ ดวงปัญญาดี กําลังจะดี อ้าว ! หมดเวลา ทําได้แค่ครึ่งเดียว ดวงปัญญามันส่งได้แค่นั้น
เพราะฉะนั้น เวลาทําบุญ ควรทําบุญแบบไหน อารมณ์ดีหรืออารมณ์เสีย ต้องอารมณ์ดีอย่างเดียวนะ ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ยิ่งใหญ่ อย่าดูเบา มีอีกตัวอย่าง เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ท่านเป็นนายทหาร ถูกส่งไปรบ
ที่ภูหินร่องกล้า ได้รับคําแนะนําจากผู้บังคับบัญชาว่า เมื่อกลับมาถึงที่พักไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ก่อนนอนต้องทําความสะอาดกระบอกปืนให้สะอาด ทั้งข้างนอกข้างใน เพราะว่าถ้าไม่สะอาด ลูกกระสุนจะไม่มีอารมณ์ออก มันจะติดลํากล้อง ขัดลํากล้องอย่างนั้น คืนนั้นไปรบกลับมาดึก ต่างก็เหน็ดเหนื่อย คนอื่นมาถึงก็นอนพัก เอาแรงกันก่อน คิดว่าตอนเช้าค่อยทําความสะอาดปืน แต่นายทหารท่านนี้ อยู่ในโอวาท ทําความสะอาดปืนทั้งนอกในก่อนนอนทุกครั้ง ปรากฏคืนนั้น
เพิ่งพักไปได้แค่ 45 นาที ได้รับคําสั่งด่วน ให้ออกไปที่สนามรบ พวกเพื่อน ทหารนึกว่าพักถึงเช้า ไม่ได้ทําความสะอาดกระบอกปืน พอไปถึงสมรภูมิ ปืนยิงไม่ออก แต่รอดมาได้เพราะปืนของนายทหารท่านนี้ ยิงออกกระบอก
เดียว ข้าศึกเห็นว่าทําอะไรไม่ได้จึงถอยไป
แล้วท่านก็ยังได้รับคําแนะนําอีกว่า เชือกผูกรองเท้าต้องยัดเข้าไป ข้างในทุกครั้ง อย่าให้สายรุ่งริ่งออกมาข้างนอก ท่านอยู่ในวินัยแม้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ แต่มีทหารบางท่านไม่สนใจ คิดว่าแค่เชือกผูกรองเท้าจะอะไร
หนักหนา อยู่ข้างนอกข้างในก็เหมือน ๆ กัน พอเข้าสู่สมรภูมิ ต้องปีนเขา เชือกผูกรองเท้าที่อยู่ข้างนอกรองเท้าไปเกี่ยวกิ่งไม้ คลานต่อไปไม่ได้ ก็โดนสอยร่วงตรงนั้น ส่วนใครที่ยัดเข้าไปข้างในก็คลานต่อไปได้ ดังนั้นเรา ดูเหมือนว่า แค่เชือกผูกรองเท้ากับการทําความสะอาดปืนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่นั่นหมายถึงชีวิตทีเดียว การทําบุญก็เช่นเดียวกัน เงินก็หามายาก พุทธศาสนาก็เกิดยาก เนื้อนาบุญก็เกิดยาก ศรัทธาก็เกิดยาก แต่เวลาทําบุญเรากลับมองข้าม
สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะไม่ได้ศึกษาไว้ คือ ความขุ่นมัว หงุดหงิด มีโทสะ ในช่วงจังหวะสําคัญ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวัง อย่าดูเบา อดีตใครทําไปแล้ว ก็แล้วกันไป มันผ่านมาแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ อดีตให้ดีดทิ้งไปเลย แล้วบาปกรรมทุกชนิดอย่าทําเพิ่มอีก ความดีทําซ้ํา ๆ นึกซ้ํา ๆ ส่วนบาปอย่าไปนึกซ้ํา ๆ เดี๋ยวดวงบาปโต แล้วจะไปดึงดูดบาปในชาติอดีตที่เราเวียนว่ายตายเกิดมานับภพนับชาติไม่ถ้วนติดกันมาเป็นพวงเลย แล้วจะมีผลที่เผ็ดร้อนมาก เดือดร้อนทีเดียว
ส่วนบุญ ทําบ่อย ๆ นึกบ่อย ๆ ซ้ําแล้วซ้ําอีกจนกว่าเราจะหมด อายุขัย และอย่าดูหมิ่นบุญเล็กบุญน้อย ทําทุก ๆ บุญ อย่าให้ตกบุญเลย แม้แต่เพียงบุญเดียว แล้วหมั่นนึกบ่อย ๆ เท่าที่เราจะนึกได้ ใจจะได้ชุ่มอยู่ในบุญ นึกถึงบุญที่เราปลื้มที่สุดแล้วจะไปดึงดูดบุญอื่นตามกันมาเป็นพวง เช่น นึกถึงบุญสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ พระธรรมกายประจําตัว เราปลื้ม เดี๋ยวบุญทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี สร้างสภาธรรมกายสากล บุญพิมพ์พระ กระทั่งบุญเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น จัดรองเท้าก็ดี ก็จะตามกันเป็นพวงเลยนะ สําคัญที่สุด คือ ปฏิบัติธรรมให้ได้อย่างน้อยดวงใส ๆ ดวงใส ๆ ทําให้ใจเราใส อารมณ์ดีมีมาก ๆ เข้า อารมณ์ไม่ดีต่าง ๆ ที่เราทําผ่านมา ในอดีตก็จะค่อย ๆ ลบเลือนไป และดีที่สุดคือเข้าถึงพระธรรมกาย ถ้าเข้าถึง พระธรรมกายได้ วิบากกรรมต่าง ๆ ที่ติดมาเป็นผังสําเร็จ จะค่อย ๆ หลุด ล่อนไปเรื่อย ๆ
5 กันยายน พ.ศ. 2545