อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

วอนสื่อมวลชน ได้โปรดอย่าทําลายหัวใจชาวพุทธ

Getting your Trinity Audio player ready...

นักข่าวมีเสรีภาพในการนําเสนอข่าว อันนี้ถูก
แต่ต้อง “พอดี” ต้องอย่าเหลิงเจิ้งเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
กับบุคคลที่พาดพิงถึง หรือกับสังคม

พอดี ดูตรงไหน
ดูว่า มันเหมาะ มันควรไหม ถ้าเหมาะควรก็ทําไปเลย
ถ้าเรื่องจริง มีประโยชน์…เขียนไป
เรื่องจริง แต่ไม่เกิดประโยชน์…ไม่เขียน
เรื่องจริง มีโทษ…ไม่เขียน
ถ้ายิ่งเรื่องไม่จริง…ยิ่งไม่ควรเขียน

ดูว่าอะไรถูกผิด อาจดูได้ไม่ยาก แต่เหมาะควร เราจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ พระสารีบุตรได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ว่า

สิ่งไรที่เราคิด พูด หรือทํา น้อมไปในทางกุศลธรรม คือยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วทําให้เจริญยิ่งขึ้น อย่างนี้เรียกว่า เหมาะควร

แต่สิ่งไรตรงกันข้ามกัน น้อมไปทางอกุศลธรรม ทําให้เกิดเป็นภาพลบติดในใจ เกิดปัญหาสังคม เกิดความทุกข์ หรือเกิดวิบากกรรมอย่างนั้น ไม่เหมาะไม่ควร

เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่น้อมไปทางกุศลธรรม ยกระดับจิตใจให้สูงส่งขึ้น สิ่งนั้นควรทํา

โดยเฉพาะเรื่องพระศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะทุกชีวิตที่เกิดมามีความทุกข์นะ ตั้งแต่ทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งเป็นทุกข์ประจํา กับทุกข์ที่จรมาอีกมากมาย ประสบสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ปรารถนาอะไรไม่ได้สิ่งนั้นก็ทุกข์ หรือพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์จากการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ มีคนนินทา มีทุกข์กายทุกข์ใจอะไรอีกสารพัด เยอะแยะไปหมด

เมื่อชีวิตมนุษย์มีทุกข์ เขาย่อมหาที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ศาสนาหรือคําสอนจากพระศาสดาของทุก ๆ ศาสนานั่นแหละจะเป็นที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของมวลมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นพระศาสนาเป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะอย่างยิ่ง เพราะเป็นหนึ่งในสถาบันหลัก และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจดังกล่าว และในความเป็นจริงแล้ว เขาก็มีการปกครองไปตามลําดับ

พระอาจารย์รูปหนึ่ง เป็นพระพม่าที่อยู่เกาหลี ท่านเล่าให้ฟังว่า ที่ประเทศพม่า มีการห้ามออกสื่อที่เป็นการตําหนิพระรัตนตรัยอย่างเข้มงวด หรือแม้แต่ในประเทศเกาหลีเองก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา กระผมติดตามข่าวสารที่นี่มาตลอด พบว่าเรื่องที่จะมีการออกสื่อในหน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตี ดูถูก เหยียดหยาม เหยียบย่ำพระพุทธศาสนาให้ตกต่ำ จะไม่มีเกิดขึ้นในเกาหลี

แถมยังมีกฎหมายคุ้มครอง โดยไม่ให้ออกสื่อใด ๆ เพื่อมุ่งทําลายศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ห้ามตําหนิ ใส่ร้าย ป้ายสี จ้วงจาบ โจมตีพระและพระพุทธศาสนา แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้น คณะสงฆ์ก็จะจัดการกันเองในส่วนที่เกี่ยวข้องที่ปกครองกันมาตามลําดับ แต่ไม่ใช่นํามาขยายเพื่อให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา

แล้วยังมีผู้ดูแลกฎหมายศาสนาของภาครัฐคอยเช็กและดูแลสื่อ เพราะไม่อนุญาตให้ออกข่าวใด ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งทําลาย หรือทําร้าย หรือว่าร้ายพระพุทธศาสนา เพราะถือว่าข่าวศาสนาจะส่งผลต่อจิตใจของประชาชน

หรือแม้แต่เวลาที่ต่างศาสนาเข้ามาเผยแผ่ที่เกาหลี ก็ห้ามออกสื่อเขียนว่าร้ายพระพุทธศาสนาเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม ที่เกาหลีจะมีหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ ไม่ต่ำกว่า ๑๐ ฉบับ จะลงข่าวดี ๆ ที่เกี่ยวกับธรรมะ การจัดงานบุญของวัดต่าง ๆ การปฏิบัติธรรม หรือประสบการณ์ทางธรรมของพระรูปต่าง ๆ เพื่อยกระดับใจให้สูงขึ้น หรืออย่างน้อยก็ดับทุกข์ของชีวิตในใจของแต่ละคนได้ในแต่ละวัน

คือมีข่าวดีออกมารายวัน เพราะคนมีทุกข์รายวัน เพราะฉะนั้น หนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาก็มีรายวัน เขียนแนะวิธีการดับทุกข์ ไม่ใช่เขียนแนะวิธีการสร้างทุกข์ หรือขยายทุกข์ ขยายความเครียดระบาดไปทั่วสังคมหมดเลย จนกระทั่งในใจของแต่ละคนถูกยัดเยียดด้วยข่าวที่ทําให้เร่าร้อน ตั้งแต่ตื่นกระทั่งหลับ วิพากษ์วิจารณ์กันไปตั้งแต่ในครอบครัว ออกมานอกบ้าน ไปโรงเรียน ไปที่ทํางาน ในทุกหนทุกแห่ง ความเครียดมันก็ระบาดไปทั่วสิ ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลย

ท่านยังกล่าวอีกว่า กระผมประหลาดใจ ตอนที่กระผมเคยอยู่เมืองไทย ทั้งที่เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ถือเป็นหัวใจของประเทศ แต่ทําไมถึงเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ลงแต่เรื่องไม่ดีของพระ แล้วก็ขยายความมุ่งโจมตี จนคนเสื่อมศรัทธา ทําไมต้องทําลายหัวใจของเราเอง ตอนแรก กระผมอ่านก็งง ๆ ตอนหลัง ๆ ก็เลยไม่อยากจะสนใจอ่านอีก ก็งงอยู่ว่า จะทําลายพระก็ทําลายกันง่าย ๆ แบบนี้เอง นี่ท่านว่าของท่านออกมาอย่างนี้นะ

๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙

พุทธศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง
ของมวลมนุษยชาติ
เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ
ชีวิตมนุษย์มีทุกข์มากเกินพอแล้ว
ได้โปรด…อย่าทําลายศรัทธา
อย่าทําลายหัวใจชาวพุทธ
อย่าทําลายหัวใจของเราเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง