Getting your Trinity Audio player ready...
|
หลังจากที่คุณยายได้ละสังขารแล้วในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2545 หลวงพ่อและคณะศิษยานุศิษย์ของท่านได้พร้อมใจกัน สร้างมหาวิหารคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง โดยใช้พื้นที่บนเกาะกลางน้ําภายในอาณาเขตดั้งเดิมของวัดพระธรรมกาย วิหารแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อทองคําของท่านเพื่อให้มนุษย์และเทวดาได้กราบไหว้บูชา
พร้อมกับน้อมรําลึกนึกถึงคุณงามความดีของท่านว่า ครั้งหนึ่งบุคคลท่านนี้ได้บังเกิดขึ้นในโลกมนุษย์เพื่อยังประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกคนที่มาเยือนมหาวิหารแห่งนี้จะได้รับแรงบันดาลใจและกําลังใจในการเดินตามรอยเท้าของคุณยายเพื่อสร้างบารมีสืบต่อไป
หลวงพ่อและลูกศิษย์ของคุณยายทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างมหาวิหารแห่งนี้ เพราะปรารถนาที่จะเชื่อมสายบุญเพื่อติดตามท่านสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติ บุญนี้จะดลบันดาลให้เราได้พบ และอยู่ใกล้ท่านอีกในเทวโลกอีกด้วย ทุกคนจึงร่วมแรงร่วมใจ และร่วมปัจจัยนับตั้งแต่ การตอกเสาเข็มต้นแรก แม้แต่ลูกศิษย์ของคุณยายที่อยู่ในต่างประเทศก็ ดําเนินพิธีผ่านการถ่ายทอดสดในเวลาเดียวกันกับวัดพระธรรมกายประเทศไทย โดยปฏิบัติธรรมพร้อมกันทุกสาขาทั่วโลก
เนื่องจากคุณยายได้กลั่นธาตุธรรมของท่าน ให้สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไปอยู่ตลอดเวลา ท่านจึงเป็น “ทักขิไณยบุคคล” ซึ่งหมายถึงเนื้อนาบุญอันเลิศเปรียบเสมือน โรงงานผลิตกระแสแห่งความสว่าง หรือพลังงานอันบริสุทธิ์ที่สามารถดลบันดาลความสุข และความสําเร็จให้เกิดขึ้นได้อย่างมากมาย และรวดเร็วใครก็ตามที่ทําบุญกับท่าน จึงเท่ากับว่าได้เชื่อมต่เพื่อรับกระแสพลังนี้จากท่านด้วย
อันที่จริงแล้วไม่ว่าเราจะสร้างมหาวิหารเพื่อบูชาธรรมท่านหรือไม่ก็ตาม คุณยายก็ไม่ยินดียินร้ายแต่อย่างใด เพราะทิพยวิมานของท่านในสวรรค์ชั้นดุสิตนั้นใหญ่โต โอฬารเกินกว่าจะบรรยายอยู่ แล้วแต่คุณยายไม่ได้เพลิดเพลินอยู่กับความสุขในวิมานของท่านเลย เพราะท่านไปนั่งปฏิบัติธรรมเข้านิโรธสมาบัติอยู่ด้านขวามือของ “มหาสมณเทวบุตร” คือพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้เป็นครูบาอาจารย์ของท่านนั่งทําใจหยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง มุ่งสู่ภายในเรื่อยไป
แม้คุณยายไม่มีความจําเป็นต้องอาศัยมหาวิหารแห่งนี้แต่ในฐานะที่ท่านเป็นมหาปูชนียาจารย์ผู้อุทิศชีวิตสร้างวัดพระธรรมกายให้ศิษยานุศิษย์ได้อาศัยเป็นที่สร้างบารมีหลวงพ่อ พร้อมทั้งพระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา และสาธุชนทั้งหลาย
จึงพร้อมใจกันสถาปนามหาวิหารแห่งนี้ เพื่อถวายเป็นเกียรติแด่ท่าน และเพื่อเป็นโอกาสในการสั่งสมบุญใหญ่ของพวกเรา ที่สําคัญคือมหาวิหารแห่งนี้จะเป็นสิ่งที่คอยย้ําเตือน ให้เราตรึกระลึกนึกถึงชัยชนะของคุณยาย ยามใดที่เราได้เห็นมหาวิหาร จิตใจของเราจะสว่างไสวเรืองรองเช่นเดียวกันกับมหาวิหารหลังนี้ ก่อให้เกิดความอาจหาญร่าเริง ปีติยินดีจิตใจเปี่ยมล้นไปด้วยบุญกุศล เป็นพลังผลักดันให้มุ่งมั่นสร้างบารมี จนเกิดผลสําเร็จเหมือนอย่างคุณยาย