อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

หน้าแรกสื่อธรรมะอานุภาพหลวงปู่..ยุคต้นวิชชา

อานุภาพหลวงปู่..ยุคต้นวิชชา

Most Commented

ทำจันทรคราส (จันทรุปราคา)

นอกจากหลวงปู่ ท่านจะพาทีมงานทำวิชชาดับดาวแล้ว ท่านก็ยังเอาเดือนมาให้ลูก ๆ ทีมงานของท่านได้เล่นอีกด้วย คือ คืนหนึ่ง..วันที่พระจันทร์เต็มดวง หลวงปู่ท่านก็ถามในโรงงานว่า “ใครทำจันทรคราสได้บ้างวะ.??”      และทันใดนั้นเอง..คุณยายทองสุขตอบว่า “ลูกเองเจ้าค่ะ” คือ คุณยายทองสุขตอบไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องใช้วิธีการใด ในการทำจันทรคราส แต่เนื่องจากหลวงปู่ท่านไม่ชอบให้ใครพูดว่า “ไม่ได้” อีกทั้งคุณยายทองสุขก็เป็นคนมีนิสัยชอบอะไรที่ท้าทาย เมื่อคุณยายทองสุขรับปากหลวงปู่แล้ว ท่านก็ลองปาฏิหาริย์พระธรรมกายให้ขยายใหญ่ เพื่อมาบดบังดวงจันทร์ให้สนิท ซึ่งพอปาฏิหาริย์เสร็จ...

ดับเดือน..ดับดาว

ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังดำเนินไปอย่างยาวนานถึง 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482 - 2488 ช่วงนั้น..หลวงปู่ ก็คุมทีมงานทำวิชชาตลอด 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 2 กะ คือ กะกลางคืน กับกะกลางวัน ซึ่งแต่ละกะจะต้องนั่งทำวิชชากันนานถึง 6 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง...

เขาเห็น..ตอนปัดระเบิด

สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นตกเป็นเป้าหมายสำคัญในภาคพนื้เอเชียอาคเนย์ ฝ่ายสัมพันธมิตรที่มีมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เป็นแกนนำ มุ่งนำกำลังเข้ากวาดล้าง และในที่สุด ..ญี่ปุ่น ก็ต้องประกาศยอมแพ้สงคราม เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 เพราะอำนาจการทำลายล้างของระเบิดปรมาณู      หวอ..ห..ว..อ.. สัญญาณเตือนภัยดังสนั่น! ขึ้นมาโดยอัตโนมัติทำให้ผู้คนต่างตกใจ พากันวิ่งหนีหลบเข้าไปในหลุมหลบภัย เพื่อให้รอดจากสะเก็ดระเบิดที่กำลังทิ้งลงมาแบบปูพรม      เครื่องบินรบ B-29...

สั่งการปัดระเบิด สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด กองกำลังทหารญี่ปุ่นได้เข้ามายังประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการใช้เป็นฐานทัพในการสู้รบ เพื่อบุกยึดประเทศพม่าและอินเดีย โดยใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางคมนาคมในการลำเลียงอาวุธ ไพร่พลและเสบียง ดังนั้นกองกำลังทหารสหรัฐฯ จึงนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดเพื่อบุกโจมตีและตัดเส้นทางการคมนาคมของพวกญี่ปุ่น ตามจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เช่น สะพานข้ามกรุงเทพ - ธนบุรี ประตูนํ้าอ่างทอง ประตูนํ้าบางยาง ประตูนํ้าบางนกแขวก รวมทั้งคลองภาษีเจริญ ซึ่ง ใกล้กับวัดปากนํ้า อีกทั้งยังมุ่งทำลายแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า ที่ใช้ในการสู้รบ...

ท่านศักดิ์สิทธิ์เกินไป

เรื่องนี้..เป็นเรื่องของลุงเปล่ง.. ซึ่งเป็นบุคคลยุคต้นวิชชาทีชอบมาเล่า เรื่องราวของหลวงปู่ให้หลวงพ่อ ธัมมชโยฟัง บ่อย ๆ อีกทั้งยังเคยมาวัดพระธรรมกายตั้งแต่ครั้งยังเป็นทุ่งนาฟ้าโล่งอีกด้วย ลุงเปล่งเป็นทานบดี ของวัดปากนํ้า..ที่ชอบมาถวายภัตตาหารกับหลวงปู่.. พร้อมกับภรรยาอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุนี้.. จึงทำให้ลุงเปล่งคุ้นเคยกับหลวงปู่ แต่ทว่า..แม้จะคุ้นเคยบกับหลวงปู่มากสักแค่ไหน ลุงเปล่งก็ไม่ค่อยจะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สักเท่าไรที่บอกอย่างนี้ไม่ใช่เพราะลุงเปล่งไม่เคารพหรือลบหลู่หลวงปู่ แต่เป็น เพราะลุงเปล่งไม่ค่อยเข้าใจและตามไม่ทันในเรื่องการทำวิชชาของหลวงปู่ โดยลุงเปล่งจะชอบพูดว่า “หลวงพ่อท่านศักดิ์สิทธิ์เกินไป” อีกทั้งยังไม่ค่อยเชื่อในอานุภาพวิชชาธรรมกายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้..ลุงเปล่งจึงเป็นคนพิเศษเพียงคนเดียว ที่แม้ยังไม่ เข้าถึงพระธรรมกาย แต่หลวงปู่ท่านก็เอ็นดูและอนุญาตให้เข้าไปในโรงงานทำวิชชาซึ่งก็คือกุฏิของท่าน เพื่อให้ลุงเปล่งได้ประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์ของวิชชาธรรมกายด้วยตัวเอง ทั้ง ๆ...

3 ศูนย์ (0) ปริศนา

เรื่องนี้..เป็นเรื่องของหลวงตาอภิรูโป ซึ่งเป็นพระที่บวชที่วัดปากนํ้าในปี พ.ศ. 2500 ท่านได้เล่าไว้ว่า ก่อนหน้านั้น..ท่านไม่เคยคิดจะบวชมาก่อนเลย อีกทั้งสาเหตุที่ยอมไปวัดปากนํ้าครั้งแรกในชีวิต ก็เพราะคิดถึงพระลูกชายที่บวชอยู่ที่นี่ ซึ่งพอไปถึง..ก็ต้องพบกับความประหลาดใจสุด ๆ คือ ท่านได้ไปเห็นรูปถ่ายของหลวงปู่ เห็นแล้วก็เกิดความสงสัยอย่างหนักว่า ทำไม..รูปหลวงปู่ถึงเหมือนกับพระที่มาปรากฏให้ท่านเห็นก่อนตาย!!(เนื่องจากก่อนหน้านี้ ท่านได้ตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่) และเมื่อท่านเห็นดังนั้น...ก็ไม่รอช้า..รีบไปเรียนถามพระที่เฝ้าอยู่ที่โรงเรียนปริยัติธรรมว่า ..“หลวงพี่ครับ...พระองค์ที่อยู่ใน รูป ยัง มีชีวิต อยู่ไหมครับ??” ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า.. “ยังมีชีวิตอยู่” พระที่โรงเรียนปริยัติก็ชี้ไปทางหลวงปู่วัดปากน้ำแล้ว พูดว่า “ท่านนั่งรับแขกอยู่นั้นเข้า ไปกราบท่านสิ” ซึ่งพอเจ้าของเรื่งงได้เจอกับหลวงปู่ครั้งแรก หลวงปู่ก็พูด โพ๊ละขึ้นทันทีว่า... “ไอ้ศูนย์..ศูนย์...

Editor Picks