อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

หน้าแรกบทความ

บทความ

Most Commented

สอนบูชาข้าวพระ

        การบูชาข้าวพระนี้มีมาก่อนหน้าที่หลวงพ่อจะมาเรียนธรรมะกับคุณยายนับตั้งแต่สมัยที่คุณยายทองสุข สําแดงปั้น ยังมีชีวิตอยู่เมื่อคุณยายทองสุขละสังขารแล้ว พิธีบูชาข้าวพระจะจัดขึ้นที่บ้านหลังเล็ก โดยเปิดเทปบันทึกเสียงของคุณยายทองสุข แล้วมีคนมานั่งกันเต็มห้องจนล้นออกมานอกบ้าน เมื่อหลวงพ่อมาพบกับคุณยายจันทร์ตอนอายุ 19 ปีท่านได้สอนวิธีบูชาข้าวพระให้ โดยท่านเริ่มต้นด้วยการบอกว่า “เอ้า... คุณนั่งไป คุณนั่งไป”  หลวงพ่อก็นั่งไปเรื่อยๆตามที่ท่านสั่งแล้วหัดเอาดอกไม้ไปบูชาพระพุทธเจ้าก่อนซึ่งตอนนั้นมีอยู่ไม่กี่ดอก ต่อมาเมื่อชํานาญมากขึ้น หลวงพ่อจึงรวบรวมค่าอาหารกลางวันไปซื้อกระเช้าดอกไม้ลองคิดดูว่าเด็กหนุ่ม ถือกระเช้าดอกไม้เดินมาวัดใครๆ คงสงสัยว่าจะ เอาไปให้ใคร เดินถือมาตลอดทางก็มีแต่คนมองแล้วยิ้ม...

ความรู้คู่ความสุข

หลวงพ่อมีความสุขมากที่ได้เรียนวิชชาธรรมกายจากคุณยาย ทําให้หลวงพ่อรู้สึกว่าวิชาความรู้ต่างๆทางโลกนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสมบูรณ์เลย ส่วนใหญ่แล้วเป็นไปเพื่อการเลี้ยงชีพ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตตนเองและ ครอบครัวเท่านั้น ความรู้ทางโลกไม่สามารถทําให้เรา ทราบเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตได้ บางคนประกอบอาชีพ จนรวยแล้ว ก็ยังไม่ทราบว่ารวยไปเพื่ออะไร หลวงพ่อเคยถามมหาเศรษฐีของโลกว่ารวยไปเพื่อฃอะไรหาทรัพย์ ได้ชํานาญขนาดนี้ ทําไปเพื่ออะไรเขาก็ไม่สามารถตอบได้แต่ถ้าถามเรื่องธุรกิจ เขากลับ ตอบได้อย่างคล่องแคล่ว วิชาความรู้ทางโลกมีความจําเป็นในระดับ หนึ่งเท่านั้น เพราะมีขอบเขตของความรู้ความเข้าใจจํากัดเราไม่อาจทราบเรื่องราวชีวิตหลังความตายได้ว่าเมื่อตายแล้ว ต้องอยู่อย่างไรไม่มีสถาบันวิชาการใดในโลกสามารถให้คําตอบ ที่ถูกต้องได้เมื่อคนเราตายแล้ววิชาความรู้ทางโลกก็หมดประโยชน์ลง แต่สําหรับวิชชาธรรมกายนั้นสามารถให้คําตอบได้เพราะเป็นวิชชาที่ไม่มีข้อจํากัดสามารถให้ประโยชน์สูงสุดทั้งในโลกนี้ และโลกหน้าช่วยปิดอบายนําพา ไปสู่สวรรค์ตราบจนกระทั่งเข้าถึงพระนิพพาน คุณยายได้ถ่ายทอดความรู้ต่างๆเหล่านี้ให้หลวงพ่อจนมาสิ้นสุด ที่มโนปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปkกน้ําว่าความตั้งใจของพระเดชพระคุณหลวงปู่นั้นเกินเลยกว่าความตั้งใจของพระโพธิสัตว์ โดยทั่วไปที่ปรารถนาจ สั่งสมบุญบารมีจนถึงระดับที่สามารถบรรลุธรรมด้วยตนเอง...

ผีเพื่อนบอกข้อสอบ

มีอยู่ครั้งหนึ่งช่วงที่หลวงพ่อยังเป็นนิสิตอยู่ เพื่อนนิสิตหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพราะเป็นมะเร็งในเม็ดโลหิตขาว แม้เพื่อนๆ จะได้ช่วยกันบริจาคโลหิตให้เป็นจํานวนมากก็ยังช่วยเธอไว้ไม่ได้เพราะหมดอายุขัย พอถึงตอนเช้า เพื่อนนิสิตหญิงอีกคนหนึ่งก็มาคุยกับหลวงพ่อว่า “นี่เธอ เธอทําอย่างไรก็ได้นะให้เพื่อนที่ตายมาบอกข้อสอบให้เราหน่อย” หลวงพ่อคิดว่าเขาคงจะพูดเล่น เพราะอยู่ในหมู่เพื่อนๆ ที่คุ้นเคยกัน พอเลิกเรียนเสร็จหลวงพ่อก็เดินทางไปกราบคุณยายที่วัดปากน้ําทันทีเล่าให้ท่านฟังว่าเพื่อนเขามาบอกอย่างนี้ ท่านนั่งนิ่งๆ ยิ้มๆ แล้วตอบว่า “ค่ะ ก็เอาไปให้เขาเห็นเถอะ” คุณยายนึกสนุกขึ้นบ้างแล้ว ท่านว่า “คุณนั่งๆๆ” พลางชี้ไปที่เสาหัวด้วน เรียกให้หลวงพ่อนั่งสมาธิ หลวงพ่อก็นั่งเอาหลังพิงเสาหัวด้วนเล็กๆ กลางห้องซึ่งเป็นที่ๆ คนอื่นเขาไม่ค่อยนั่งกัน...

ฝากดวงแก้ว

เมื่อถึงวันสงกรานต์คุณยายจะนําพระที่แกะสลักจากหินแก้วธรรมชาติ พระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์เล็กๆและดวงแก้วในตู้มาสรงด้วยน้ําฝนสะอาดท่านไม่ใช้น้ําหอม เพราะว่าจะทําให้ผิวของพระบรมสารีริกธาตุเสีย ส่วนดวงแก้วจะใช้น้ําที่ใส่ดอกมะลิผสมน้ําหอมไทยสูตรโบราณสีเขียวคุณยายกับหลวงพ่อช่วยกันสรงน้ําอยู่สองคน นอกจากนี้ยังมีดวงแก้วที่คุณยายรักมากท่านพกติดตัวเป็นประจํา เป็นดวงแก้วเล็กๆที่หลวงพ่อไปหามา อันที่จริงของเดิมท่านมีอยู่แล้วแต่หลวงพ่อไปตระเวนหามาเพิ่มอีกเพราะได้ทราบจากคุณยายว่าดวงแก้วมีอานุภาพ เมื่อประกอบวิชชาธรรมกาย แล้วสามารถนํามาใช้งานให้เป็นประโยชน์ได้ หลวงพ่อออกไปแสวงหาดวงแก้วเพราะอยากได้มาก เมื่อพบแล้วก็นํามาให้คุณยายไม่ว่าใสหรือขุ่นก็เอามาก่อนบางก้อนเป็นหินกึ่งรัตนชาติบางทีได้ดวงแก้วขุ่นๆ มีอยู่ ดวงหนึ่งสีเขียวรูปทรงคล้ายไข่ซึ่งนับว่าหายาก เมื่อหาได้แล้วก็ดีใจมากมาถึงบ้านหลังเล็กแล้วก็นํามาให้คุณยาย ท่านก็รับไปนั่งเข้าที่ตรวจดู หลวงพ่อนําดวงแก้วที่หามาได้มาฝากคุณยายไว้ซึ่งท่านรับฝากโดยเอาผ้าเช็ดหน้ามัดม้วนอย่างดี แล้วใช้เข็มกลัดติดไว้ดูกะทัดรัดมากหลวงพ่อพยายามฝากทําอย่างท่าน แต่ผ้าเช็ดหน้าที่ห่อไว้จะเป็นโพรงไม่กระชับเหมือนของคุณยายการห่อดวงแก้ว ของหลวงพ่อเหมือนการสวมเสื้อผ้าหลวมๆ แต่ของคุณยายเหมือนผ้าแนบเนื้อเป็นแบบเสื้อผ้าของเทวดาเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนหลวงพ่อคิดถึงดวงแก้วที่ฝากไว้ ก็จะไปขอท่านดูครั้งหนึ่งท่านก็ชอบให้เราดูอัธยาศัยของคุณยายคือ เวลาที่หลวงพ่อถามคําถามหรือส่งของศักดิ์สิทธิ์ให้ท่านท่านจะ หลับตาดูแล้วบอกว่า “นี่ตัวอ่อน” “นี่ตัวแก่” “มันอ่อนยังไงล่ะ...

คุณยายสอนให้รักบุญ

คุณยายสอนหลวงพ่อว่าบุญบารมีนั้น ไม่สามารถได้มาฟรีๆ เราต้องทําของเราเอง เมื่อทําแล้วจึงจะได้ จะให้เป็นบุญหล่นทับนั้นไม่มีต้องทําเองเท่านั้น และไม่ควรเบื่อหน่ายต่อการสร้างบุญบารมี เพราะบุญเป็นที่มาของความสุข และความสําเร็จในชีวิต ขณะที่บาปนํามาซึ่งความลําเค็ญและความทุกข์ทรมาน ในเมื่อบาปเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง เราต้องเร่งสร้างบุญให้หนาแน่นตลอด 24 ชั่วโมง เหมือนกัน ทั้งทําทานรักษาศีล และเจริญภาวนาเพื่อไม่ให้บาปได้ช่อง ต้องสร้างบุญอย่างถี่ๆ ไปตลอดต่อเนื่อง เมื่อไรที่บุญส่งผลเราจะปลื้มชื่นอกชื่นใจ บุญทุกบุญล้วนส่งผลทั้งนั้นไม่ว่าบุญเล็กบุญปานกลาง หรือบุญใหญ่แต่บางท่านชัดเจน หรือไม่ชัดเจนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบาปที่เจือปน คุณยายเคี่ยวเข็ญหลวงพ่อเรื่องบุญมาตลอด พบกันวันแรกๆ...

เมื่อคุณยายป่วย

สิ่งต่างๆที่หลวงพ่อเล่ามานี้ยังไม่ถึงจุดที่เป็นจริงของคุณยาย เป็นเพียงแค่ระดับพื้นผิวเราจะรู้จักความเป็นจริงของคุณยายก็ต่อเมื่อเราได้ศึกษาวิชชาธรรมกายกับท่านเท่านั้นแล้วจะหายสงสัยว่าทําไมนั่ง ได้เป็นเวลาหลายๆ ปี โดยไม่เบื่อหน่าย กลับยิ่งชอบ ยิ่งสนุกสนาน นั่งตัวตรงเรื่อยไป เวลาคุยกับท่านเรื่อง วิชชาทีไรหลวงพ่อจะลืมวันลืมคืน แม้กระทั่งยามท่านป่วยหลวงพ่อยังลืมว่าท่านป่วย ครั้งหนึ่งท่านป่วยหนักมากพอป่วยหนักแล้วลูกศิษย์ทั้งหลายก็แทบจะหายไปกันหมด คือมาหาท่านแล้วท่านไม่มีแรงต้อนรับก็เลยกลับไป นอกจากคนที่รักและเคารพนับถือท่านก็จะยังไปมาหาสู่กันอยู่ซึ่งมีอยู่ไม่มาก ยามที่พึ่งท่านได้ก็มาแต่พอท่านป่วยก็หายไปบางคนยังเป็นธุระ พาท่านไปพักรักษาอยู่ในสวนแถวสุขุมวิท หลวงพ่อไปหาท่านทุกวัน ต้องเดินไกลมากจนเหงื่อโซมตัวเห็นท่านนอนอยู่บน เตียงคลุมโปงบ้างเปิดผ้าห่มบ้าง พอไปถึงก็ก้มกราบท่าน แล้วนั่งสมาธิหน้าเตียง เมื่อนั่งหลับตาแล้วก็ถามท่านเรื่องธรรมะ เพราะอยากรู้ในเรื่องที่ค้างอยู่จึงต้อง ถามต่อท่านลุกไม่ไหวก็เปิดผ้าห่มทีคลุมโปงไว้โผล่หน้ามาตอบพอถามท่าน ท่านก็เปิดมาตอบทีหนึ่งเสียง เหมือนไม่ใช่คนป่วยเวลาถามเรื่องธรรมะไม่รู้ท่านเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ท่านตอบเราได้หมดเราก็นั่งอยู่บนพื้นต่อหน้าเตียงตรงนั้นคนเดียว...

Editor Picks