อยู่ในระหว่างการทดสอบการใช้งาน

หน้าแรกบทความสื่อธรรมะ

สื่อธรรมะ

Most Commented

บ่มอินทรีย์

ง่ายแต่ลึก

กฎที่ต้องรู้…ไม่รู้อันตราย

กฎแห่งกรรมเป็นกฎที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่รู้ก็ไม่ได้ ไม่รู้ก็ดําเนินชีวิตผิดพลาด ต้องศึกษาให้รู้ เป็นเรื่องสําคัญ เพราะเราตกอยู่ภายใต้ Law of Kamma กฎแห่งการกระทํา ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ไม่ว่าดีหรือชั่วล้วนมีผลทั้งสิ้น ถ้าชั่วก็มีผลไปอบาย ถ้าดีก็มีผลไปสุคติ ที่ไปอบาย อุปมาเหมือนฝุ่นในผืนปฐพี ไปสวรรค์ อุปมาเหมือนฝุ่นในเล็บมือ เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎแห่งกรรมจึงดําเนินชีวิตผิดพลาดไปอบาย ไปถึงตรงนั้น ไม่มีสิทธิ์คิดอะไร ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดว่า รู้อย่างนี้ ไม่รู้ด้วยว่า ทําไมถึงมาอยู่ตรงนี้ พอลงมา...

หากย้อนเวลาได้

ช่วงเวลา 4-5 ปีที่ได้อยู่กับคุณยายที่วัดปากน้ํานับเป็น ช่วงเวลาที่หลวงพ่อเรียนธรรมะ กับคุณยายอย่างมีความสุขมากนั่งอยู่บนอาสนะเดียว เป็นแผ่นกระดานเรียบๆ ไม่มีอะไรรอง ด้านหลัง พิงเสาหัวด้วนต้นเล็กๆนั่งจนไม้มันขึ้นเงาทีเดียวคุณยายจะคอยบอกว่า “คุณนั่งไป ทําอย่างนั้นนะ” ท่านค่อยๆสอนค่อยๆ ย้ํา หลวงพ่อรู้สึกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้ไม่มี ความหมายอีกแล้ว รู้สึกถึงคําว่าโลกว่างอย่างแท้จริงแม้จะมีคนสัตว์สิ่งของตึกรามบ้านช่องอยู่มากมายแต่เหมือนไม่มี เพราะเราไม่มีความผูกพันธ์ และไม่เห็นความสําคัญของ สิ่งเหล่านั้นเลยรู้สึกเฉยๆกับทุกสิ่งช่วงก่อนบวชนั้นหลวงพ่อสุขใจมากจริงๆ พอบวชแล้วก็ได้มาสร้างวัด เริ่มที่จะมีมารตามมารังควานเป็นเรื่องแปลกอยู่เหมือนกัน ได้แต่นึกว่าเราเป็นลูกศิษย์ของพระบรมศาสดา ท่านเองก็ต้องผจญมารนับตั้งแต่ก่อนบรรลุธรรม จนกระทั่งถึงคราวดับขันธปรินิพพานลูกศิษย์อย่างเราคงหนีไม่พ้น ต้องเจอบ้างเป็นธรรมดา หลวงพ่อทุ่มเทสร้าง...

มีอารมณ์เดียว

คุณยาย เป็นบุคคลที่น่าศึกษามา หลวงพ่ออยู่กับท่านมานานตั้งแต่ปลายป พ.ศ.2506 จนถึงวันที่ท่านละสังขารในปี พ.ศ.2543 รวม 37 ปี เห็นท่านมีอารมณ์เดียว คือมีอารมณ์สม่ําเสมอ ท่านไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรกับใคร บุคลิกของท่านดูเฉยๆ พูดจาเรียบๆ สมบัติของมีค่าต่างๆท่านเห็นแล้วเฉยๆ แม้ว่าจะเอาอะไรไปให้ท่านเพราะอยากให้ท่านดีอกดีใจก็ต้องผิดหวังไม่ว่าส่งอะไรไปให้ท่านจะต้องเอามานั่งหลับตาเข้าที่ดูทุกทีคืออารมณ์ ของท่านไม่ค่อยกระเพื่อม ไม่ว่าเราจะแสดงกิริยา อาการอย่างไร ท่านจะเฉยๆ นิ่งๆ ดูเหมือนท่านมี ความมั่นใจของท่าน มั่นใจอย่างสงบนิ่ง...

เครื่องสําอางของคุณยาย

เมื่อหลวงพ่อบวชใหม่ๆ ช่วงนั้นยังเป็นหนุ่ม ผิวหน้าเหมือนกับผิวพระจันทร์ คือเป็นหลุมเป็นบ่อคุณยายบอกว่า “เดี๋ยวยายจะเปลี่ยนธาตุให้ เอาธาตุธรรมที่ไม่สะอาดออก ให้เหลือแต่ที่สะอาดๆ ”หลวงพ่อคิดว่าดีเหมือนกัน นั่งปฏิบัติธรรมกับคุณยายไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร ส่วนมากจะนั่งเงียบๆ พอไปทําวัตรเย็นเสร็จกลับมาจะถามท่านเรื่อยๆ ว่า “ยายถมหลุมบ่อเต็มหรือยัง”  นึกย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าแปลกดีเหมือนกันไม่เห็นท่านทําอะไร นอกจากนั่งปฏิบัติธรรมแล้วความเปลี่ยนแปลงก็ค่อยๆ เกิดขึ้นพระภิกษุทั้งที่บวชเก่าและบวชใหม่เริ่มจะถามกัน หลวงพ่อเองไม่รู้หรอกว่าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็มาบอกคุณยายท่านตอบว่า “ค่ะๆ” แล้วท่านก็ไม่พูดอย่างอื่นเลย พอใกล้ออกพรรษาได้สังเกตดูอีกครั้งปรากฏว่า ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแล้ว คุณยายใช้เครื่องสําอางทําให้หน้าเกลี้ยงได้ แต่เครื่องสําอางของท่านไม่เหมือนกับเครื่องสําอางที่คนทั่วไปใช้กัน     ...

คุณยายเตือนให้บวช

          ย้อนไปถึงวันที่คุณยายให้คําตอบหลวงพ่อ เรื่องนรกสวรรค์เป็นครั้งแรก หลวงพ่อเป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี เมื่อได้ยินได้ฟังคําตอบจากท่านแล้วก็เกิดกุศลศรัทธาบอกท่านว่า “ผมอยากบวช ผมบวชได้ไหม” ซึ่งในขณะนั้นเป็นนิสิตชั้นปีที่  1 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณยายตอบว่า “อย่าเพิ่งเลย ไปเรียนให้จบเสียก่อน” ต่อมาเมื่อหลวงพ่อเรียนจบแล้วจึงวางแผนออกบวชในเดือนธันวาคม เพราะคิดว่าต้องทําความเข้าใจกับทางบ้านก่อนเนื่องจากเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นหินในไข่ ส่วนใหญ่เขามีแต่ไข่ในหินที่ต้องทะนุถนอม แต่สําหรับหลวงพ่อเป็นพันธุ์หินในไข่...

อย่างนี้ก็มีด้วย

เมื่อมีแขกมาพบคุณยาย ท่านจะตรวจดูนรกสวรรค์ให้เสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่าแขกที่มาพบจะเชื่อคุณยายทุกคนบางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ บางคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีอยู่รายหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ ท่านรูปร่างสันทัดออกท้วมๆ ศีรษะเถิกมีผมเหลือน้อย ภรรยาของท่านเป็นครูโรงเรียนวัดบวรนิเวศที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาคุณยายมาก แต่ฝ่ายชายที่เป็นสามีนั้นเฉยๆ เป็นคนดื้อที่แปลก ไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ ไม่เชื่อเรื่องกายละเอียด แต่สวดมนต์อย่างเดียวหลายชั่วโมงทุกวัน เผื่อเหนียวไว้ ส่วนภรรยาของท่านนั่งสมาธิเป็นประจํา หลวงพ่อเห็นเขาดื้อมากจนหลวงพ่ออดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด วันนั้นพอเขามากราบคุณยาย เขาก็ขึ้นมานั่งข้างหน้า ยกมือไหว้คุณยายแล้วขึ้นอารัมภบทว่า ผมไม่เชื่อหรอกว่านรกสวรรค์มีจริง ผมเชื่อว่าตายแล้วสูญ แต่ผมอยากให้คุณครูช่วยดูให้หน่อยว่าพ่อแม่ของผมตายแล้วไปอยู่ที่ไหน ผมทําบุญแล้วจะเอาบุญนี้อุทิศไปให้...

Editor Picks